ซ้อมอย่าง… เล่นจริงอีกอย่าง…

21

[ ซ้อมอย่าง…เล่นอีกอย่าง… ]

ช่วงปรีซีซั่น 6 เกม เอริค เทน ฮาก วางระบบทีม 4-2-3-1 พร้อมใส่ปรัชญาในการเล่นที่เข้มข้นเข้าไปในทีม แมนฯยูไนเต็ด ด้วยการเพรสซิ่งแดนบนเล่นเกมรุกดุดัน

แข้ง ปีศาจแดง เล่นกันอย่างมีชีวิตชีวาเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นช่วยกันเล่นเกมรับต่อเกมรุกจนแลดูว่า เทน ฮาก เดินมาถูกทางแฟน ปีศาจแดง อยากเห็นทีมรักเล่นด้วยทัศนคติแบบนี้

แต่ปรากฏว่าทันทีที่เกมนัดเปิดสนามกับ ไบรท์ตัน เปิดฉากขึ้นต่อหน้าแฟนบอลใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ผลลัพธ์ในสนามกลับออกมาเป็นคนละเรื่องกับสิ่งที่เราเห็นในช่วงปรีซีซั่น

การขาด อองโตนี่ มาร์กซิยาล กลายเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสร้างความสับสนให้กับ เอริค เทน ฮาก ตัดสินใจเปลี่ยนแท็คติคและการจัดตัวผู้เล่นที่ไม่ได้สมดุลส่งผลให้ทีมทำผลงานได้ย่ำแย่

กุนซือดัตช์วางแนวรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ กัปตันทีมยืนปราการหลังคู่กับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ทำผลงานได้ดีในเกมอุ่นเครื่องนัดสุดท้ายที่เสมอ ราโย บาเยกาโน่ 1-1 ราฟาแอล วาราน มีชื่อเป็นสำรองส่วน วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ นั่งดูเกมบนอัฒจันท์

แบ็กซ้าย ลุค ชอว์ หายป่วยกลับมาเป็นตัวจริงทำให้ ไทริลล์ มาลาเซีย แข้งใหม่ต้องรอโอกาสข้างสนามส่วนฝั่งขวาชั่วโมงนี้ในทีมไม่มีใครดีกว่า ดีโอโก้ ดาโลต์ (ขนาดนั้นเลยจริงๆ)

เพียงแค่ไม่กี่วินาทีต่อมาหลังจาก ไบรท์ตัน เขี่ยบอลเริ่มเล่น ดาโล่ต์ ยอดแบ็กโปรตุกีสก็โชว์การจับบอลกระฉอกไปเข้าทาง เลอันโดร ตรอสซาร์ กระชากหลุดไปยิงเข้าข้างตาข่าย…เสียวแต่เช้าเลย

แดนกลาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ คริสเตียน เอริคเซ่น ได้ลงสนามเป็นตัวจริงพร้อมกันอย่างที่ แฟน ปีศาจแดง ต้องการได้เห็นโดยมี สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด ผนึกกำลังร่วมกันเหมือนเดิม

แนวรุกกราบซ้าย มาร์คัส แรชฟอร์ด ส่วนฝั่งขวา เจดอน ซานโช่ หายป่วยลงมาเล่นได้โดยใช้ บรูโน่ กับ เอริคเซ่น สลับกันขึ้นมาเล่นบทบาท False 9

สิ่งที่ได้เห็นคือ บรูโน่ ดันสูงขึ้นมารอพุ่งไปข้างหน้าเพื่อรับบอล…เอริคเซ่น ยืนสูงเพื่อที่จะสร้างสรรเกมรุก…แม็คโทมิเนย์ ก็ลอยตัวขึ้นไปแบบอิสระ…มีเพียงแค่ เฟร็ด คนเดียวที่เล่นตามตำแหน่งปักหลักอยู่หน้าแผงหลัง

เฟร็ด ซึ่งโดนวิจารณ์มาเยอะเกี่ยวกับบทบาทนี้และเป็น “จุดอ่อน” เป้าหมายในการจู่โจมของคู่ต่อสู้ทุกทีมเพราะมีข้อจำกัดในเรื่องของการเอาตัวรอดและรับ-ส่งบอล

…เพียงแค่ช่วงต้นเกมนาทีที่ 9 เฟร็ด พ่อยอดขมองอิ่มโดน อดัม ลัลลาน่า ไล่บี้จนถึงกับแก้มสั่นส่งบอลไปที่เท้าของ ตรอสซาร์ พาเข้าเขตโทษแต่ยังตามไปบล็อคลูกยิงแก้ตัวได้แบบจวนเจียน

เมื่อตำแหน่งการยืนที่ เทน ฮาก วางลงมาแบบนี้กลายเป็นว่าคนที่จะเปิดบอลคือ แม็คไกวร์ เนื่องจาก เฟร็ด โดนประกบส่วนมิดฟิลด์ที่เหลือลอยกันสูงไปหมดในขณะที่ผู้เล่น ไบรท์ตัน ก็เดินเข้าหาทุกตัวพร้อมจะแย่งบอล

คนที่จะต้องขับเคลื่อนสร้างสรรเกมอย่าง บรูโน่ กับ เอริคเซ่น กลับต้องขึ้นไปรอรับลูกบอลในขณะที่ แม็คโทมิเนย์ นอกจากวิ่ง…วิ่ง…แล้วก็วิ่ง…ไล่ล่าลูกบอลไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเท่ากับว่า…แถมหรือต่อให้เขาไปหนึ่งตัว

45 นาทีแรกจบลงด้วยสกอร์ 0-2 ไม่เซอร์ไพรส์…การยืนตำแหน่งวิธีเล่นสะเปะสะปะทำให้เสียการครองบอลง่ายและโดนตีโต้กลับ…

มีช่วงเวลาหนึ่งประมาณ 5 นาทีกราฟฟิคบนจอขึ้นโชว์หรา ไบรท์ตัน ครองบอลถึง 70 เปอร์เซ็นต์ !!!

ครึ่งหลัง เทน ฮาก ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวแก้เกมรอจนถึงนาทีที่ 53 ขยับตัวแรกเป็น เฟร็ด ที่ถูกเปลี่ยนตัวออกส่ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลงไปแทนในขณะที่ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งมีใบเหลืองติดตัวตั้งแต่ 25 นาทีแรกยังได้ลอยชายอยู่ในสนาม

…พูดถึง แม็คโท ในจังหวะโดนใบเหลืองลูกบอลอยู่ที่เท้าแท้ๆพาทะลุกลางขึ้นไปถึงแดน ไบรท์ตัน ราว 30-35 หลาพอโดนขวางด้านหน้าก็ล็อกบอลหนีมาเท้าขวาข้างถนัดเพื่อจะเปลี่ยนทางแต่ดันยาวเกินจากนั้นก็ตามเข้าไปขย้ำใส่ มอยเซส ไกเซโด้ สุ่มเสี่ยงจะโดนใบแดงเหมือนกัน

เทน ฮาก ออกมาส่งสัญญานมือ 4 นิ้วปรับมาเล่น 4-1-4-1 เอริคเซ่น มายืนหน้าแผงหลังเพื่อแจกจ่ายและเปิดบอลขึ้นหน้า บรูโน่ ลงต่ำทำเกมกับ แม็คโท โดยมี แรชฟอร์ด กับ ซานโช่ ยืนกราบซ้าย-ขวาและ โรนัลโด้ เป็นหัวหอก

เกมดีขึ้นมีความสมดุลขึ้น เอริคเซ่น พอลงต่ำมาคุมการเปิดบอลทำให้แลดูไหลลื่นเกิดจากทักษะเชิงบอล,ความคิดในการเล่นและประสบการณ์ที่โชกโชนเป็นคุณสมบัติของมิดฟิลด์ที่ต้องมีอยู่แล้ว

แม็คโท คือตัวที่น่าจะปรับเปลี่ยนเพราะสร้างสรรเกมรุกไม่ได้…ไม่มีพรสวรรค์ในเรื่องนี้อยู่ในตัวซึ่งกว่าที่ เทน ฮาก จะขยับก็ปาเข้าไปนาทีที่ 78 ส่ง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ลงมาแทน

12 นาทีที่ ดอนนี่ อยู่ในสนามยืนสูงแดนบนแต่ขยับทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนเดิมจะว่าไปแล้วแข้งดัตช์ได้รับโอกาสมาหลายครั้งตั้งแต่ยุค โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กับ ราล์ฟ รังนิก จนมาถึง เทน ฮาก อดีตลูกพี่เก่าแท้ๆก็ยังดูอึดอัดไม่สบายตัว

ดอนนี่ ขาดความชัดเจนในเรื่องของคุณสมบัติเฉพาะตัวที่โดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเกมรับก็ไม่ได้ดุดันกร้าวแกร่ง…เกมรุกก็ไม่จัดจ้านเด็ดขาด…เล่นไปเล่นมาไม่แตกต่างกับ แม็คโท แถมเป็นรองในเรื่องความขยันและลูกห้าวอีกต่างหาก

แมนฯยูไนเต็ด ไล่มาเป็น 2-1 นาทีที่ 68 จากลูกเตะมุมเพิ่มความหวังขึ้นมาเยอะทีเดียวเพราะเวลายังเหลืออยู่พอสมควรแต่ทว่า เทน ฮาก กลับปล่อยให้ล่วงเลยไปกว่าจะเปลี่ยนตัวตามโควต้าอีกสองคนก็ล่อเข้าไปนาทีที่ 90 !!!

ไทริลล์ มาลาเซีย ลงแทน อีชอว์ ส่วน อเลฮานโดร การ์นาโช่ แทน บรูโน่ ช่วงทดเวลาเจ็บ 5 นาทีเป็นฝ่าย ไบรท์ตัน ที่ทำลายเวลาเล่นกับลูกบอลจนหมดเกลี้ยงสิ้นเสียงนกหวีด

สิ่งที่ เทน ฮาก ทำในช่วงปรีซีซั่นหายไปไหนหมด…ซ้อมอย่าง…แต่พอถึงเกมจริงกลับเล่นอีกอย่างหนึ่ง…ไม่เป็นไปตามแท็คติคที่ซักซ้อมกันมาเนิ่นนาน

การเปลี่ยนกระทันหันแบบนี้ผู้เล่นก็ต้องปรับความเข้าใจกันอีกและที่สำคัญความเข้มข้นในการเพรสซิ่งและเคาน์เตอร์เพรสซิ่งมีให้เห็นน้อยมาก

นอกจากเรื่องของแท็คติคการเล่นและการจัดวางตัวนักเตะแล้วก็ลงลึกถึงรายละเอียดไปที่ความสามารถของผู้เล่นซึ่งในรายที่ถูกจัดหนักมากที่สุดก็คือตู่หู แม็ค-เฟร็ด

รอย คีน จวกก่อนเลยว่า “ขาดความฉลาดในการเล่นตำแหม่งมิดฟิลด์…เราเห็นมาหลายปีสัปดาห์แล้ว…สัปดาห์เล่า”

พอล สโคลส์ ผสมโรงเข้าไปอีก ““เป็นการเริ่มต้นที่น่าตกใจสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบ (เสียประตูสองครั้งจากจังหวะ ดาโล่ต์ พลาด…เฟร็ด จ่ายบอลเข้าตีนคู่แข่ง)”

“ครึ่งแรกน่าผิดหวังจริงๆสัญญาณเตือนตั้งแต่ไม่กี่นาทีแรกว่าวันนี้จะเป็นวันที่เลวร้าย”

“แม็คโทมิเนย์ มักจะพยายามวิ่งไปข้างหน้ากับลูกบอล…ไร้สาระ !!! ”

“แม็คโทมิเนย์ พยายามวิ่งกับลูกบอลอย่างต่อเนื่อง…คุณก็แค่จ่ายบอลให้เพื่อนมันไม่ได้ยากขนาดนั้น”

“คุณภาพของเขาตรงกลางสนามแย่มาก…ผมโล่งอกที่เขาไม่ถูกไล่ออกจังหวะนั้นมันอาจจะเป็นใบแดงได้อย่างง่ายดาย”

“เฟร็ด กับ แม็คโทมิเนย์ …เทน ฮาก จะต้องเลือกคนใดคนหนึ่ง…บางทีแม้แต่คนเดียวก็อาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ”

“เราได้เห็นสิ่งนั้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมากับผู้เล่นสองคนนี้”

ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้วสำหรับการประเดิมฤดูกาลใหม่ของ แมนฯยูไนเต็ด เชิญแสดงทัศนะได้เต็มดอก…

MankCs

Cheerball

Luke Shaw attempts to challenge Joel Veltman.

แบ่งปัน