ปรเมศย์ : ฮึดสู้อาการบาดเจ็บสู่ฝันทัพช้างศึก

2

ปรเมศย์ อาจวิไล : ฮึดสู้อาการบาดเจ็บ สู่ฝันทัพช้างศึก
#ChangsuekFocus by M-150

ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 มีอีกหนึ่งกองหน้าทัพช้างศึกสายเลือดใหม่ ที่ติดทีมเข้ามา และเป็นครั้งแรกของเจ้าตัวในการติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ นั่นคือ ปรเมศย์ อาจวิไล จาก เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งก่อนหน้านี้ ชื่อของ “เจ้าฟร้อง” เคยมีโอกาสติดทีมชาติไทยชุดเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องพลาดไปเกือบทุกครั้ง เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่คอยรบกวนอยู่ตลอด และวันนี้ พร้อมฮึดสู้ เพื่อโอกาสครั้งสำคัญในการพิสูจน์ตัวเองได้หวนกลับมาอีกครั้ง พร้อมภารกิจป้องกันแชมป์อาเซียน

#แข้งดาวรุ่งความหวังแดนหน้าช้างศึก

กองหน้าวัย 24 ปี คือผลผลิตจากอคาเดมี่กิเลนผยองที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในเส้นทางลูกหนัง ชื่อของ ปรเมศย์ อาจวิไล ถูกพูดถึงบ่อยครั้ง หากถามว่านักเตะดาวรุ่งคนใดมีโอกาสก้าวขึ้นไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่ของเมืองทอง ยูไนเต็ด และ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคต

ปรเมศย์พัฒนาฝีเท้าของตัวเองจนได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตเมื่อปี 2018 ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของเมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่งนั่นเป็นเพียงความสำเร็จก้าวแรกของเจ้าตัว

“ตอนนั้นดีใจมากครับที่มีโอกาสก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของเมืองทอง ยูไนเต็ด เพราะผมเป็นเด็กในอคาเดมี่ของทีมด้วย มันเป็นความใฝ่ฝันของเด็กในอคาเดมี่ทุกคนที่ในอนาคตอยากเล่นให้กับทีมนี้”

“ผมได้ซึมซับการเล่นฟุตบอลจากนักเตะรุ่นพี่ที่มีคุณภาพ ได้ฝึกซ้อมฟุตบอลที่ช่วยให้ตัวเองพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

#แข้งเยาวชนทีมชาติที่รอวันนับหนึ่ง

การได้ขึ้นมาเล่นในทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด ชุดใหญ่ ทำให้ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้รับการจับตามองอย่างมากในตอนนั้น ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ ไปกับบอลได้ดี และการจบสกอร์ที่เฉียบคม ทำให้ ‘โค้ชโย่ง’ วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ในขณะนั้น ใส่ชื่อปรเมศย์ติดทีมชาติไทยครั้งแรกในชีวิต

“ก้าวแรกในนามทีมชาติไทยของผม เกิดขึ้นในปี 2018 ตอนนั้นผมได้รับโอกาสจากโค้ชโย่งเรียกตัวติดทีมรุ่น U21 เป็นทีมที่เตรียมไปแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชียน เกมส์ 2018 ที่ประเทศอินโดนีเซีย”

“ตอนนั้นรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเลยครับที่มีชื่อติดทีมชาติครั้งแรก ก่อนหน้านี้ผมไม่เคยติดทีมรุ่นอื่นมาก่อน นี่คือครั้งแรกของผม”

“แต่น่าเสียดายที่ผมมีอาการป่วย (โรคกระเพาะ)” ทำให้ต้องถอนตัวออกจากทีม โค้ชโย่งยังโทรศัพท์มาหาผมบอกว่าให้รักษาตัวให้หายเร็ว ๆ ไว้มีโอกาสค่อยมาสู้กันใหม่”

“การที่มีชื่อติดทีมชาติไทย มันเป็นความฝันของผม และเชื่อว่าเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่น่าเสียดายที่ผมยังคว้าโอกาสนั้นไม่ได้”

#อาการบาดเจ็บเปลี่ยนชีวิต

หลังจากพลาดโอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อทีมชาติไทยไปแล้ว กราฟชีวิตลูกหนังของ ปรเมศย์ อาจวิไล กลับพุ่งตกลงมาอย่างน่าใจหาย เมื่อเจ้าตัวเผชิญสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต คือการได้รับบาดเจ็บหนัก ถึงขั้นไม่ได้เล่นฟุตบอลเกือบ 2 ปี

“มันเป็นช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ปี 2019 ครับ วันนั้นผมซ้อมกับเมืองทองฯ จำได้แม่นเลยว่าขณะที่ผมกำลังวิ่งแล้วหัวเข่าผมบิด ทำให้ได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นเข้ารับการผ่าตัดทันที”

“ผมพักรักษาอาการบาดเจ็บเกือบ ๆ 2 ปี ทั้งรักษาและฟื้นฟูกว่าจะกลับมาสัมผัสลูกฟุตบอลได้อีกครั้ง”

“ตั้งแต่ผมเป็นนักฟุตบอลมา เหตุการณ์นี้หนักสุดในชีวิตของผมแล้ว ผมเผชิญเรื่องร้าย ๆ และช่วงเวลาที่ยากลำบากจนบางครั้งรู้สึกท้อ กว่าจะหายเป็นปกติ กว่าจะกลับมาซ้อมกับทีมได้ และกว่าจะปรับตัวกับจังหวะฟุตบอล มันนานมาก ๆ ผมไม่มีส่วนร่วมกับทีมเลยในช่วงนั้น ได้แต่รักษาอาการบาดเจ็บไปวัน ๆ”

“ช่วงที่ติดทีมชาติไทย (U21) ครั้งแรก ผมไม่มีอาการบาดเจ็บเลย มีแค่ป่วยจนต้องถอนตัวในตอนนั้น ส่วนทัวร์นาเมนต์สำคัญ ๆ ที่ผมพลาดไปมีทั้งฟุตบอลเอเชียน เกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย และที่น่าเสียดายที่สุดคือทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ”

“ผมเสียดายมาก ๆ รู้สึกเสียดายทุกครั้งที่มีชื่อแต่ไม่สามารถพาตัวเองไปสู่จุดนั้นได้ เพราะอาการบาดเจ็บ”

#ใช้ความอดทนเพื่อรอโอกาส

ระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ปรเมศย์ อาจวิไล คลาดกับโอกาสประเดิมทีมชาติไทย สิ่งที่เขาควรจะได้รับตลอดมา นั่นจึงเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เจ้าตัวกลับสู่เส้นทางลูกหนังที่ควรจะเป็น และสามารถโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจกับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกรีโว่ ไทยลีก 2022/23 ตลอดครึ่งทางของซีซั่น

ปรเมศย์ได้รับโอกาสครั้งสำคัญจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ เฮดโค้ชเมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ด้วยการส่งลงสนามในเกมลีก จำนวน 14 นัด ยิงได้ 2 ประตู 1 แอสซิสต์ ซึ่งเจ้าตัวกลับมาทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ หากเทียบกับดาวรุ่งที่เจ็บหนักเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา

“ถ้าถามผมว่าเพราะอะไรถึงทำให้ตัวเองกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง ผมตอบได้ทันทีเลยว่า ‘หัวใจ’ ครับ”

“มันต้องสู้ (ยิ้ม) ถ้าเราเจ็บแล้วไม่สู้ ก็คงไม่หายสักที ผมคิดอยู่อย่างเดียวคือต้องสู้ พอเราหายจากอาการบาดเจ็บก็ต้องใส่ความพยายามและความอดทนลงไป เข้าฟิตเนสให้มากขึ้น เรียกคืนสภาพร่างกายของตัวเองกลับมาให้ได้”

#ใช้พลังฮึดสู้สู่การประเดิมช้างศึกชุดใหญ่

ความพยายาม ความอดทน และพลังฮึดสู้ของ ปรเมศย์ อาจวิไล ทำให้เขากลับมาได้อย่างแข็งแกร่ง จนกระทั่งโอกาสสำคัญก็มาถึง เมื่อ มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย เรียกตัวติดทัพช้างศึกชุดใหญ่ เตรียมลุยศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ซึ่งถือเป็นการมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกของปรเมศย์ และแน่นอนว่านี่คือรางวัลตอบแทนของการฮึดสู้ในทุกโอกาสที่เจ้าตัวได้รับ

“เป้าหมายในชีวิตของผมตอนนั้น มีแค่การได้เล่นในทีมชุดใหญ่ของเมืองทองแค่นั้น มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมดีใจที่สุดแล้ว”

“แต่วันนี้ผมมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก มันรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ๆ (ยิ้ม) แต่จะมองว่ามันเป็นโอกาสมากกว่า ในการที่ผมได้มาอยู่ตรงนี้ ได้ร่วมฝึกซ้อมกับนักเตะรุ่นพี่เก่ง ๆ นี่คือทัวร์นาเมนต์แรกที่ผมมีชื่อติดทีมชาติแบบจริงจัง ซึ่งมันพิเศษตรงที่นี่คือทีมชุดใหญ่”

“เป็นประสบการณ์ของผมที่ได้มาเล่นร่วมกับนักเตะระดับท็อป ส่วนเรื่องการมีชื่อไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับทีมงานสตาฟฟ์โค้ช เพราะผมทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วไม่ว่าในสนามซ้อมหรือเกมอุ่นเครื่อง”

#ต้นแบบนักสู้

เรื่องราวของ ปรเมศย์ อาจวิไล ชี้ให้เห็นแล้วว่าหากคุณมีจิตใจที่เข็มแข็ง มีความพยายามที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย และความอดทนต่อสิ่งที่เรียกว่าความฝัน ทุก ๆ อย่างสามารถเกิดขึ้นได้ จากนักเตะที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลราว 2 ปี เพราะอาการบาดเจ็บ ฮึดสู้จนกลับมาโชว์ฟอร์มได้ดี และมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกในชีวิต นี่คือสิ่งที่เขาควรได้รับมัน

“ผมคิดว่านักฟุตบอลมันต้องเจอกับปัญหานี้อยู่แล้ว (อาการบาดเจ็บ) ขึ้นอยู่ว่าจะมากหรือน้อย ผมอยากให้เรื่องราวของผมเป็นแรงบันดาลใจต่อนักฟุตบอลเยาวชน หรือแม้แต่บุคคลธรรมดาทั่วไป”

“ความอดทนและการมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้เรากลับมาได้ไวที่สุด อย่าท้อ หากทุกคนตั้งใจ อดทน ผมเชื่อว่าสักวันจะเป็นวันของเราครับ”

นี่คือเรื่องราวพลังฮึดสู้ของ “เจ้าฟร้อง” ปรเมศย์ อาจวิไล จากดาวรุ่งที่ต้องเผชิญปัญหาอาการบาดเจ็บมาโดยตลอด แต่ก็ฮึดสู้ ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ จนมาถึงวันนี้ เขาคืออีกหนึ่งความหวังที่แฟนบอลชาวไทยต่างเฝ้าดู และรอคอยที่จะได้เห็นการเติบโต ตามรอยรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา ไอดอลของเขา ซึ่งก้าวแรกที่จะได้พิสูจน์ตัวเองนั่นคือ ศึกชิงแชมป์อาเซียน 2022 ที่มีบัลลังก์แชมป์เป็นเดิมพัน

#M150 #นักเตะพลังฮึดสู้ #ต้องดีกว่าเก่า #ช้างศึก​​ #ทีมชาติไทย #ฟุตบอลทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #AFFChampionship #ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน2022 #AFFMitsubishiElectricCup2022

แบ่งปัน