AFF Team Analysis | อินโดนีเซีย
“ทัพการูด้า”ของ ชิน แท ยง รั้งอันดับที่ 152 ของโลก เป็นอีกหนึ่งทีมที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก มีจุดเด่นในเรื่องของพละกำลังและความฟิต พวกเขาได้ปรับแผนวิธีการเล่น โดยใช้เกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ครั้งล่าสุดที่พบกับทีมชาติ กือราเซา ที่อยู่อันดับแรงกิ้งที่ 84 สามารถเอาชนะไปได้ 2-1 ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของโค้ชที่ได้วางไว้ รวมทั้งได้ความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม ส่งผลให้พวกเขาทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจากทัวร์นาเมนต์เอเอฟซี เอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แข่ง 3 นัด ชนะ 2 แพ้ 1 ทำให้อินโดนีเซียผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้สำเร็จ
ส่วนขุมกำลังนักเตะ น่าจะยึดจากชุดรองแชมป์อาเซียนปีที่แล้ว อย่าง ปราตามา อาฮาน, อัสนาวี มังกัวลัม เอกี้ เมาลาน่า, เอลคาน แบ็กก็อตต์, วิทัน สุไลมาน ซึ่งรายชื่อที่กล่าวมาทางสโมสรต้นสังกัดไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องของการปล่อยตัวเข้ารับใช้ทีมชาติแต่อย่างใด จึงทำให้พวกเขาได้เข้ามารับชาติได้อย่างเต็มตัว
รวมถึงตัวที่เสริมเข้ามาอย่าง ฆอร์ดี อามัต เซ็นเตอร์แบ็คที่โอนสัญชาติจากสเปน มีประสบการณ์ติดทีมชาติสเปนตั้งแต่ชุด U17และ U21 เป็นชุดเดียวกันกับแข้งระดับโลกอย่าง ดาบิด เด เกอา, อิสโก้, ดานี่ การ์บาฆาล, ปาโบล ซาลาเบีย นอกจากนั้นเขาลงเล่นในเวทีระดับ ลาลีกา สเปนมาแล้ว 123 นัด และ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ สวอนซี ซิตี้ 52 นัด ซึ่งปัจจุบันเป็นตัวหลักให้กับยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม และ แซนดี วอลช์ กองหลังที่โอนสัญชาติจากเบลเยียม ที่ค้าแข้งกับเควี มิเคเลน ในลีกเบลเยียม เจ้าตัวผ่านการลงสนาม 17 นัด ยิงได้ 2 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ หรือ แม้แต่กองหน้าตัวเก๋าวัย 35 ปี อย่าง อิลิยา สปาโซเยวิช ที่โอนสัญชาติมาจาก มอนเตรเนโกร ก็มีสิทธิ์ติดทีมชุดนี้เช่นกัน พร้อมด้วยดาวรุ่งที่น่าจับตาอย่าง มาร์เซลิโน่ เฟอร์ดินาน ดาวรุ่งวัย 18 ปีที่เข้ามาติดทีมชุดใหญ่เรียบร้อย
สำหรับการเจอกันระหว่าง อินโดนีเซีย กับทีมชาติไทย ต้องย้อนกลับในรอบชิงชนะเลิศปี 2002 ซึ่งเป็นปีที่เข้าใกล้แชมป์ที่มากสุดของพวกเขา แต่สุดท้ายก็ดวลจุดโทษพ่ายให้กับทัพช้างศึกไป 4-2 ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนๆทัพการูด้ากว่าหนึ่งแสนชีวิต หลังจากนั้นมาพวกเขาก็ไม่เคยสมหวังกับการคว้าแชมป์รายการนี้อีกเลย ซึ่งหากนับเฉพาะการพบกันในศึกชิงแชมป์อาเซียนทั้ง 2 ทีมเคยพบกันทั้งหมด 14 นัด ไทยชนะ 11 ครั้งและอินโดนีเซียชนะ 3 ครั้งโดยแมตช์ล่าสุดที่พบกันในเกมรอบชิงชนะเลิศนัดที่สอง จบลงด้วยผลเสมอ 2-2 ก็ยังคงเป็นฝันร้ายของ“อินโดนีเซีย” อีกครั้งที่ต้องชวดแชมป์ไปในที่สุด
นี่จึงเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของพวกเขาในปีนี้ เมื่อต้องอยู่ร่วมกลุ่ม A กับ ทีมชาติไทย (แชมป์เก่า), ฟิลิปปินส์, กัมพูชา และ บรูไนฯ เพราะฉะนั้นอย่าได้แปลกใจ ถ้าหาก อินโดนีเซีย มาพร้อมกับแพชชั่นกระหายชัยชนะ ผสานกับแท็คติกความเหนียวแน่นฉบับแดนโสมขาว บวกกับลูกบ้าของแข้งพลังหนุ่มที่พร้อมเปิดหน้าแลกเข้าใส่เหมือนที่เราเห็นมาแล้ว
🎫 ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A สองนัดเหย้าของทีมชาติไทย 🇹🇭 จำหน่ายบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา หรือคลิกซื้อบัตร ที่นี่ 👇
📌 วันที่ 26 ธันวาคม 2565 เวลา 19.30 น.
🇹🇭 ไทย พบ ฟิลิปปินส์ 🇵🇭 ที่ สนามกีฬาธรรมศาสตร์
bit.ly/3H1S4ui
📌 วันที่ 2 มกราคม 2566 เวลา 19.30 น.
🇹🇭 ไทย พบ กัมพูชา 🇰🇭 ที่ สนามกีฬาธรรมศาสตร์
bit.ly/3EUDhPd
🔈 ***CHANGSUEK MEMBER รับส่วนลด 5%
📱 สมัครช้างศึกเมมเบอร์ได้ที่ >> bit.ly/changsuekxrabbit
⚽️ โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022
🇧🇳 ทีมชาติบรูไน พบ ทีมชาติไทย 🇹🇭
🗓 20 ธันวาคม 2565 ⏰ 19.30 น.
🏟️ ชีราส สเตเดียม (มาเลเซีย)
🇹🇭 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติฟิลิปปินส์ 🇵🇭
🗓 26 ธันวาคม 2565 ⏰ 19.30 น.
🏟️ สนามกีฬาธรรมศาสตร์
🇮🇩 ทีมชาติอินโดนีเซีย พบ ทีมชาติไทย 🇹🇭
🗓 29 ธันวาคม 2565 ⏰ 19.30 น.
🏟️ แพทริอ็อต คันดราบากา สเตเดียม
🇹🇭 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติกัมพูชา 🇰🇭
🗓 2 มกราคม 2566 ⏰ 19.30 น.
🏟️ สนามกีฬาธรรมศาสตร์
⚽️ รอบรองชนะเลิศ
🗓 6-7 มกราคม 2566 นัดแรก
🗓 9-10 มกราคม 2566 นัดสอง
🏆 รอบชิงชนะเลิศ
🗓 13 มกราคม 2566 นัดแรก
🗓 16 มกราคม 2566 นัดสอง
#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #AFFChampionship #ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน2022 #AFFMitsubishiElectricCup2022
