“ฟุตซอลอาเซียน” ไม่ใช่ “งานง่าย”

13

ในวันที่ “ฟุตซอลอาเซียน” ไม่ใช่ “งานง่าย” ของ ทัพโต๊ะเล็กช้างศึก
#ChangsuekFutsalCorner

กลายเป็นข่าวดังสร้างความฮือไปทั่วโลก หลังจาก ทีมฟุตซอลทีมชาติเวียดนาม ปิดดีลใหญ่บรรลุข้อตกลงคว้าตัว ดิเอโก ราอูล กีสตอซซี่ โค้ชชาวอาร์เจนติน่า วัย 43 ปี ที่เคยพาทัพ โต๊ะเล็กฟ้า-ขาว ก้าวขึ้นไปเถลิงแชมป์ ฟุตซอลโลก เมื่อปี 2016 เข้ามาคุมทีมด้วยสัญญา 2 ปี

โดยเป้าหมายหลักที่ เวียดนาม กล้าลงทุนดึง อดีตโค้ชยอดเยี่ยมโลก ปี 2016 เข้ามาคุมทีม เพราะต้องการให้ ดิเอโก กีสตอซซี่ เข้ามายกระดับวงการฟุตซอลเวียดนาม ให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ โดยเฉพาะต้องการแซง ไทย ขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งอาเซียน และก้าวสู่ทีมระดับท็อปของทวีปเอเชีย นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายสำคัญคือการคว้าตั๋วไปลุยศึก “ฟุตซอลชิงแชมป์โลก” ให้ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน

ไม้เพียงแค่ เวียดนาม แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายชาติในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มหันมาสนใจพัฒนากีฬาฟุตซอลอย่างจริงจังมากขึ้น แม้ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ทีมชาติไทย จะครองความยิ่งใหญ่มาโดยตลอดกวาดแชมป์มาครองได้เกือบทุกสมัย แชมป์อาเซียน 16 สมัย และ 5 เหรียญทองซีเกมส์ มีเพียงปี 2010 ที่ อินโดนีเซีย คว้าแชมป์อาเซียนไปครอง เนื่องจาก ไทย ไม่ส่งทีมแข่งขัน

แต่หากแฟนบอลไทย ติดตามผลงานของ ทีมฟุตซอลทีมชาติไทย แบบจริงจังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการแข่งขันระดับอาเซียน หลายชาติทั้ง เวียดนาม, อินโดนีเซีย, เมียนมา หรือแม้แต่ มาเลเซีย สามารถต่อกร
กับทัพโต๊ะเล็กช้างศึก ได้แบบสูสี แม้บทสรุปสุดท้ายยังเป็น ทีมชาติไทย ที่เก็บชัยชนะได้ แต่รูปเกมก็อึดอัดบีบหัวใจกองเชียร์อยู่ไม่น้อย

#เวียดนาม

ทีมชาติเวียดนาม เริ่มสร้างทีมแบบจริงจังตั้งแต่ปี 2009 ภายใต้การพักดันของ ทัน อานห์ ทู ผู้จัดการทีม และประธานพัฒนาฟุตซอลของเวียดนาม ที่ดึงโค้ชต่างชาติระดับแนวหน้าของโลก ทั้ง พัทยา เปี่ยมคุ้ม กุนซือชาวไทย, เซอร์จิโอ การ์เกลี่ ยอดโค้ชชาวอิตาลี, บรูโน่ การ์เซีย ฟอร์โมโซ่ โค้ชไฟแรงจากสปน, มิเกล โรดริโก กุนซือจอมเทคนิคชาวสเปน และล่าสุด ดิเอโก ราอูล กีสตอซซี่ เข้ามาคุมทีม

แม้จะไม่เคยคว้าแชมป์รายการอะไรเลย แต่พวกโค้ชเหล่านี้เข้ามาสร้างรากฐานที่มั่งคงให้กับเวียดนาม ในระยะยาว ทั้งการแข่งขันลีกอาชีพ, รูปแบบการเล่น, และการพัฒนานักเตะเยาวชนที่ถูกวิธี ทำให้ เวียดนาม มีตัวเลือกนักเตะใช้งานมากขึ้น

นอกจากนี้ ทัพโต๊ะเล็กดาวทอง ยังเป็นขาประจำในถ้วยเอเชีย เข้ารอบน็อคเอาท์ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่นั้น เวียดนาม ยังสามารถผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตซอลชิงแชมป์โลก มาแล้วถึง 2 สมัยติด ปี 2016, 2021 พร้อมผ่านเข้ารอบ 16 สุดท้ายได้ทั้งสองครั้ง ซึ่งในระยะเวลาอันใกล้ เวียดนาม ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากๆ ของทีมชาติไทย

#อินโดนีเซีย

เช่นเดียวกับ อินโดนีเซีย ที่เป็นอีกหนึ่งยอดทีมของอาเซียน ตัวผู้เล่นของทัพโต๊ะเล็กอิเหนา มีทักษะความเร็วไม่ได้เป็นรอง นักเตะไทย เลย แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาขาดไปคือเรื่องระบบทีมเวิร์ค และรูปแบบการเล่นที่ไม่หลากหลาย

แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หลังกลับมาจากโทษแบนของ ฟีฟ่า ทีมชาติอินโดนีเซีย ดึงโค้ชต่างชาติเข้ามาคุมทีม เพื่อช่วยพัฒนาทีมให้ดีขึ้นทั้ง วิคเตอร์ เฮอร์มันส์ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ชาวดัดซ์, เคนสุเกะ ทาคาฮาชิ กุนซือหนุ่มไฟแรงชาวญี่ปุ่น และล่าสุดดึงตัว โมฮัมหมัด ฮาเชมซาเดห์ กุนซือมากฝีมือชาวอิหร่าน เข้ามาคุมทีม

นอกจากนี้ลีกอาชีพภายในประเทศก็แข็งแกร่งขึ้นทุกปี แต่ละสโมสรกล้าทุ่มทุนดึงดาวเตะดีกรีทีมชาติจากทั่วโลก และโค้ชต่างชาติเข้ามาทำทีม ล่าสุดกับดีลใหญ่ เพนเดคาร์ ยูไนเต็ด ดึงตัว ริคาร์ดินโญ่ พ่อมดฟุตซอลซูเปอร์สตาร์ทีมชาติโปรตุเกส วัย 36 ปี เข้ามาร่วมทีม

ซึ่งการมีลีกอาชีพที่แข็งแกร่ง มีโค้ชทีมชาติที่เก่ง ทำให้ผู้เล่นอินโดนีเซีย สามารถเรียนรู้จากผู้เล่นระดับโลก และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด เช่นเดียวกับในระดับเยาวชนก็พัฒนาขึ้นมาก ศึกชิงแชมป์เอเชีย ยู20 ปี 2019 โต๊ะเล็กอิเหนา เข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ก่อนจบอันดับที่ 4

ผลงานชัดเจน 3 เกมล่าสุดในศึกชิงแชมป์อาเซียน และซีเกมส์ ที่ อินโดนีเซีย พบกับ ไทย พวกเขาไม่แพ้ทัพโต๊ะเล็กช้างศึก ในเวลา และสามารถต่อกรสู้ได้แบบสูสี หากได้โค้ชที่เก่งพัฒนาได้ถูกจุด ทัพโต๊ะเล็กการูด้า จะเป็นทีมที่น่าสนใจไม่น้อย

#เมียนมา และ #มาเลเซีย

ทีมชาติเมียนมา พวกเขาจริงจังมากขึ้นเพื่อหวังพัฒนาขึ้นมาเป็นทีมระดับท็อปของอาเซียน โดยการดึง อ.บุญเลิศ เจริญวงศ์ เฮดโค้ชชาวไทย ที่ถือเป็นโค้ชนักปั้นมือทองของวงการฟุตซอลไทย เข้าไปคุมทีม เพื่อวางรากฐานให้แข็งแกร่ง ซึ่งในทัวร์นาเมนต์อาเซียน และซีเกมส์ ที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาขึ้นมาอย่างชัดเจน

ในขณะที่ มาเลเซีย อดีตทีมระดับท็อปของอาเซียน ที่เคยผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตซอลโลก มาแล้วเมื่อปี 1996 แต่ช่วงหลังผลงานตกลงมาไปอย่างน่าใจหาย ล่าสุดเตรียมดึงตัวโค้ชต่างชาติเข้ามาคุมทีม เพื่อเข้ามายกระดับให้ทัพโต๊ะเล็กเสือเหลือง กลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้ง ส่วนลีกในประเทศถือว่าไม่ธรรมดามีการแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง หากพัฒนาอย่างตรงจุด มาเลเซีย ก็จะกลับมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอีกครั้ง

#ชาติอื่นในอาเซียน

ส่วนชาติอื่นๆ ในอาเซียน ที่เริ่มหันมาพัฒนากีฬาฟุตซอลก็มีหลายประเทศทั้ง กัมพูชา ที่มีลีกกึ่งอาชีพแข่งขันภายในประเทศ และส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันรายการนานาชาติมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี ฟิลิปปินส์ ที่หยุดทำทีมไปพักใหญ่ ล่าสุดก็กลับมาทำทีมอีกครั้ง พร้อมวางเป้าหมายกลับขึ้นมาสู้กับชาติในอาเซียนให้ได้ในช่วง 5 ปีหลังจากนี้

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นได้ว่าหลายชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หันมาพัฒนากีฬาฟุตซอลอย่างจริงจัง และมีเป้าหมายชัดเจนคือเอาชนะ ทีมชาติไทย ให้ได้ ที่ครองความยิ่งใหญ่ในอาเซียนมาอย่างยาวนาน

แน่นอนแฟนบอลไทย เองต้องการให้ ไทย มองไปในระดับที่สูงกว่าอาเซียน แต่ ณ เวลานี้ การแข่งขันระดับอาเซียน มันไม่ง่ายการแข่งขันในอาเซียนมีความเข้มข้นสูงกว่าในอดีต หากเรายังเอาชนะคู่แข่งร่วมอาเซียนไม่ได้ ระดับเอเชีย หรือระดับโลก ก็คงไม่ต้องพูดถึง

ทีมชาติไทย ต้องไม่หยุดพัฒนา สร้างผู้เล่นเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ให้ได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วง นอกจากนี้ต้องกล้าลงทุนดึงโค้ชระดับโลก เข้าช่วยพัฒนาอีกแรง หากหวังครองความยิ่งใหญ่ในอาเซียน เป็นขาประจำในเวทีเวิลด์ ต่อไปเรื่อยๆ และก้าวไปคว้าแชมป์ทวีปเอเชีย สักครั้งในอนาคต

#ช้างศึก #บอลไทย #ฟุตซอล #ฟุตซอลไทย #Thailand #FutsalThailand #ฟุตซอลทีมชาติไทย

แบ่งปัน