#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149
รูดม่านปิดฉากไปแล้วสำหรับโปรแกรมทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่แม้ว่าผลงานจะเป็นไปตามเป้านั่นคือเราได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย แต่ถ้าว่ากันจากสิ่งที่ได้เห็นต้องยอมรับตามตรงว่าทั้งกูรูฟุตบอล, ยูทูปเบอร์ชื่อดัง, สื่อและแฟนบอลทั้งขาจรและเจ้าประจำต่างพร้อมใจกันบอกว่า “ยังไม่ผ่าน”
เวลาในการเตรียมทีมน้อยไป, จำนวนสตาฟฟ์ในทีมนอกเหนือจากทีมงานโค้ชมีไม่พอ, กึ๋นของโค้ชที่ว่ากันด้วยเรื่องของการแก้เกมและการเลือกผู้เล่นลงสนามชวนสงสัย และสุดท้ายคือผลงานในเกมดวลกับอุซเบกิสถานที่ถือเป็น “ของจริง” ว่ากันตรงๆ ถ้าเขาเน้นๆหน่อยคงโดนหลายตุง ทั้งหมดที่ว่ามาคือสิ่งที่บอกว่าทำไมยังไม่ผ่าน
มันมีชุดคำถามมากมายเกี่ยวกับการเดินทางหลังจากนี้ของทีมชาติไทย (โดยเฉพาะทีมชุดใหญ่) ตัวอย่างเช่น คิงส์ คัพ หนนี้ควรเชิญทีมไหนมาแข่ง? ชิงแชมป์อาเซียน ที่จะเตะกันปลายปีจะส่งทีมไหนดีไปเล่น? และสุดท้ายโปรแกรมฟุตบอลภายในที่จะต้องล้อไปกับโปรแกรมทีมชาติควรดีไซน์ออกมาแบบไหน?
ผมสนใจในคำถามแรกเกี่ยวกับ คิงส์ คัพ เพราะมันเป็นรายการที่ใกล้ตัวที่สุด(ตามข่าวที่ได้รับการเปิดเผยจากทางสมาคมฯ คิงส์คัพจะจัดกันในช่วงเดือน ก.ย. ที่จะถึงนี้ โดยกำลังอยู่ระหว่างการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพ, สนามแข่งขัน และรวมไปถึงทีมที่จะทาบทาม)
“เชิญใครดีล่ะ?”
มันมีเวย์ให้เลือกอยู่ 2-3 เวย์ เกี่ยวกับรายการนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการอะไรกันแน่? (เรตติ้งผู้ชม, คะแนนฟีฟ่า หรืออยากจำลอง “ของจริง” เพื่อหาจุดบกพร่องของทีม)
(สำหรับผมนะ) เพื่อให้เราได้ประโยชน์สูงสุด ผมตั้งคุณสมบัติคร่าวๆของทีมที่เราจะเชิญมาไว้ 2-3 ข้อ ดังนี้
ข้อแรกทุกทีมควรเป็นทีมที่มีอันดับฟีฟ่าดีกว่าเรา, ข้อสองควรเป็นทีมชุดใหญ่ ไม่ใช่ชุดบี, ชุดปรีโอลิมปิกหรือรวมดาราบ้าบออะไรเทือกนี้ และข้อสุดท้ายต้นทุนในการเชิญพวกเขามาโชว์เพลงแข้งควรอยู่ในเรตที่เป็นเหตุเป็นผล ไม่ใช่แพงหูฉี่เพราะเอาแต่อ้างว่าจะมีสตาร์ดังมาร่วมทีม
ในการจัดลำดับโถทีมวางสำหรับเอเชียนคัพปีหน้า พี่ไทยเราคงได้นั่งไขว่ห้างอยู่โถ4แล้วแน่นอน หลังคะแนนตามหลังทีมสุดท้ายของโถ3อย่างปาเลสไตน์ตั้ง60แต้ม(จากการคำนวณอย่างไม่เป็นทางการ ปาเลสไตน์จะมี 1233.73 คะแนน ในขณะที่ไทยมีแค่ 1173.4 คะแนน) ซึ่งระยะห่างตั้งขนาดนี้ไล่ยังไงก็คงไม่น่าจะทันก่อนถึงวันจับฉลาก ดังนั้นรายการอุ่นเครื่องหลังจากนี้ วัตถุประสงค์คงต้องไปเน้นเรื่องการเตรียมทีมเพื่อให้พร้อมที่สุด
ลึกๆแล้วผมอยากได้ทีมจากฝั่งตะวันออกกลางอย่างน้อย 1 ทีม เพราะหากพิจารณาจากทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเอเชียน คัพ หนนี้ เราจะเห็นได้ว่ามีมากถึง 11 จาก 24 ทีมเป็นทีมจากตะวันออกกลาง พูดง่ายๆ “เกือบครึ่ง” และเราคงหนีไม่พ้นแน่ๆที่จะต้องรับมือกับบอลสไตล์เลี้ยงกินตัว-ว่องไว ดังนั้นหากจะหวังเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกชิงแชมป์ทวีปแล้วละก็ ทีมอาหรับนี่แหละ “เหมาะ!”
ส่วนอีกทีมที่อยากได้คือทีมจากโซนคอนคาเคฟ เหตุผลคงไม่มีอะไรมากเนื่องจากมันมีไม่ค่อยบ่อยนักที่ทางฝั่งเอเชียและคอนคาเคฟจะมีโปรแกรมที่ว่างตรงกัน (ซึ่งหนนี้ก็เป็นอย่างงั้น ในเดือนก.ย. ยุโรปมีคิวเตะเนชั่นลีก ในขณะที่ทางฝั่งแอฟริกาก็มีคัพออฟเนชั่นเช่นกัน) นักเตะไทยยังขาดประสบการ์ณในการรับมือกับทีมฟุตบอลที่เน้นพละกำลัง-เด่นด้านแรงสปริ้นท์ และแรงปะทะ แถมการเชิญทีมจากโซนนี้มาเล่น (หากเป็นทีมเกรดแถวๆบีบวก-เอลบ) ค่าใช้จ่ายก็ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
ผมว่าบรรดาทีมที่ได้ไปบอลโลกที่กาตาร์ เวลานี้คงจะกำลังหาทีมอุ่นเครื่องในช่วงเดือน ก.ย.กันวุ่น และคงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมามองทีมที่ไม่ได้ไปบอลโลกอย่างเรา
ถ้างั้นคิงส์คัพหนนี้ ขอแบบนี้แล้วกัน(ขอมันส์ๆ เข้มๆ เพื่อเน้นเตรียมทีม)
อิรัก(กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนสายเลือดใหม่), อุซเบกิสถาน(ขอแก้มือหน่อย), ปานามา(ดีกรีเคยผ่านเวทีบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้ว) และพี่ไทยในฐานะเจ้าภาพ
ได้แบบนี้คงจะดีไม่น้อย
แล้วท่านผู้อ่านล่ะ? แบบไหนดี?
akinson149
………………………………………………………………………………….
“akinson149” พงศ์รัตน์ วินัยวัฒนวงศ์
Moderator เพจ thailandsusu (Section: บทความ-แปลข่าวบอลไทย) และคอลัมนิสต์ฟุตบอลไทย
#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #คิงส์คัพ #KingsCup #FIFADay
