สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย

2

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 8/2567

เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาทฯ นำโดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันฟุตบอล และเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน โดยมีผลการพิจารณาบทลงโทษ ประกอบด้วย เรื่องพิจารณาลงโทษสโมสร จำนวน 2 เรื่อง และ เรื่องพิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน จำนวน 1 เรื่อง ตามรายละเอียด ดังนี้

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ “ รีโว่ ไทยลีก” ไทยลีก วันที่ 29 เมษายน 2567
คู่ระหว่างสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี
– เหตุการณ์ แมตช์นี้กำหนดการเริ่มการแข่งขัน เวลา 18.30 น. แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เริ่มการแข่งขันล่าช้าไป 2 นาที เนื่องจากนักกีฬาทั้ง 2 ทีมออกจากห้องพักนักกีฬาล่าช้าไป 4 นาที ไม่เป็นไปตามที่กำหนด

– ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสรทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งแรก จึงลงโทษเตือน

2) ลงโทษสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 เป็นความผิดครั้งที่สอง (เนื่องจากเคยฝ่าฝืนการกระทำผิดมาแล้วในฤดูกาลเดียวกัน) จึงลงโทษปรับเงิน 20,000 บาท

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 2 วันที่ 4 พฤษภาคม 2567
คู่ระหว่างสโมสรนครศรี ยูไนเต็ด พบ สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี
– เหตุการณ์ หลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน ขณะผู้ตัดสินเดินเข้าอุโมงค์ ได้มีกองเชียร์สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ฝั่งอัฒจันทร์มีหลังคา ได้สาดน้ำไปยังทีมงานผู้ตัดสิน และหลังจากนั้นได้ขว้างขวดน้ำตกด้านหน้าทีมงานผู้ตัดสิน

– ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ ข้อ 4.4 ปรับเงิน 40,000 บาท และ เป็นการกระทำความผิดซ้ำในฤดูกาลเดียวกัน ปรับเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 60,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 40,000 บาท

3. การแข่งขันฟุตบอลรายการ “รีโว่ ไทยลีก” ไทยลีก 1(การพิจารณาเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน) เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567
คู่ระหว่างสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด (สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ร้องเรียน จำนวน 2 เหตุการณ์)

– เหตุการณ์
1) ในนาทีที่ 22 ผู้เล่นหมายเลข 20 นายปรเมศย์ อาจวิไล สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด พยายามที่จะวิ่งไปเพื่อไปรับบอลจากผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. POPP WILLIAN สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด แต่ในขณะที่กำลังวิ่งนั้น ผู้เล่นหมายเลข 16 นายเคนเน็ต วิลเลียม ดูกอล สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้หันมามองและยกศอกขึ้นมาขวางไว้ จงใจที่จะขัดขวางทางวิ่งและการเล่นของผู้เล่นหมายเลข 20 นายปรเมศย์ อาจวิไล สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นการเล่นนอกเกมอย่างชัดเจน แต่ผู้ตัดสินและ VAR ไม่ได้มีการพิจารณาให้เป็นการฟาล์วแต่อย่างใด

ผลการพิจารณา
– ลงโทษนายวิศเวศ สังข์นคร ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากการกระทำดังกล่าว ส่งผลทำให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้รับบาดเจ็บแต่ไม่รุนแรงมากนัก ต้องถูกคาดโทษใบเหลือง ตามกติกาข้อ 12 หัวข้อ Foul and Misconduct แต่ไม่ได้ให้ใบเหลือง

เหตุการณ์
2) ในนาทีที่ 76 ผู้เล่นหมายเลข 5 นายธีราทร บุญมาทัน สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เปิดบอลจากทางด้านซ้ายของสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. BISSOLI สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 13 นายสถาพร แดงสี สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ชนล้มลงในกรอบเขตโทษ ซึ่งในจังหวะดังกล่าวผู้ตัดสิน ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นการฟาล์ว แต่ VAR ได้ทำการตรวจสอบและเรียกผู้ตัดสินมา (On-field review) หลังจากผู้ตัดสินได้ทำการตรวจสอบแล้ว จึงตัดสินจังหวะนี้ให้เป็นจุดโทษกับสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

ผลการพิจารณา
– พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 13 นายสถาพร แดงสี สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด มีเจตนาวิ่งเข้ามาชนผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. BISSOLI สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขณะที่ไม่อยู่ในระยะของการเล่นลูกบอล ถือว่าเป็นการทำผิดกติกา ข้อ 12 หัวข้อ Foul and Misconduct นายวิศเวศ สังข์นคร ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง ที่ให้เป็นจุดโทษ

แบ่งปัน