ไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบลงอย่างไร มันจะเป็นอีกหนึ่งปีที่คอลูกหนังเมืองมะกะโรนีคงไม่มีทางลืมเลย
นานแค่ไหนแล้วนะครับที่เราไม่ได้เห็นการตัดสินต้องมาวัดกันในนัดสุดท้ายแบบนี้
ทีมตกชั้นเพิ่งรู้แค่ 2 ทีมเท่านั้นคือ เวเนเซีย กับ เจนัว ส่วนอีกทีมยังต้องหาผู้โชคร้ายระหว่าง กายารี่ หรือ ซาแลร์นิตาน่า
โควตายุโรป เราได้ ลาซิโอ กับ โรม่า ที่ผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูโรปา ลีก เรียบร้อย ขณะที่ ฟิออเรนติน่า กับ อตาลันต้า ยังต้องแย่งกันไปเล่นยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก
ท็อปโฟร์ที่จะไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ครบแล้ว นั่นคือ เอซี มิลาน, อินเตอร์ มิลาน, นาโปลี และ ยูเวนตุส แต่กับตำแหน่งแชมป์ ใครล่ะที่จะได้สคูเด็ตโต้ไปครอง?
นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนกำลังให้ความสนใจมากสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
ต้องยอมรับครับว่าซีซั่นนี้้ทั้ง มิลาน และ อินเตอร์ สู้ได้สมศักดิ์ศรีมาก
ก่อนเปิดฤดูกาล อินเตอร์ ถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ที่จะคว้าแชมป์ ส่วน มิลาน เป็นถึงเต็ง 4 กันไปเลย
แต่พอเล่นไปเล่นมา พวกเขาทั้งคู่แสดงให้เห็นว่าสมควรแล้วที่มาถึงจุดนี้ได้
ช่วงแรกอาจมี นาโปลี ที่มาแรง แต่ นาโปลี ก็คือ นาโปลี เมื่อถึงช่วงสำคัญพวกเขามักจะตกม้าตายเสมอ ปล่อยให้ อินเตอร์ ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์หน้าหนาว หรือแชมป์ครึ่งฤดูกาลแรกไปครอง
กระทั่งมาถึงจุดเปลี่ยนในเกมดาร์บี้ที่ มิลาน พลิกกลับมาแซงชนะ อินเตอร์ นั่นทำให้พลพรรค “ปีศาจแดง-ดำ” มีแรงกระตุ้นอย่างมาก จากนั้นพอขุนพล “งูใหญ่” ไปพลาดท่าที่ โบโลญญ่า เข้าให้อีก มันทำให้ทุกอย่างเข้าทางทีมของ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ หมด
ตอนนี้จึงเหลืออีกเพียง 90 นาทีเท่านั้นที่จะตัดสินทุกอย่าง
มิลาน ขอแค่บุกเสมอ ซาสซูโอโล่ ในนัดสุดท้ายวันอาทิตย์นี้ พวกเขาจะคว้าสคูเด็ตโต้มาครองได้เสียที หลังรอคอยมานานถึง 11 ปี ขณะที่ อินเตอร์ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเปิดบ้านเอาชนะ ซามพ์โดเรีย ให้ได้ แล้วภาวนาว่าคู่ปรับร่วมเมืองจะพลาด เพื่อที่จะได้ดาวดวงที่สองมาติดบนหน้าอก
แน่นอนว่าความได้เปรียบยังคงอยู่ที่ “รอสโซเนรี่” แต่อย่างที่ทุกคนทราบแหละครับ เกมลูกหนังอะไรก็เกิดขึ้นได้
เชื่อว่ายังไม่มีใครลืมเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2002
ตอนนั้น อินเตอร์ นำเป็นจ่าฝูงจนถึงนัดรองสุดท้าย พวกเขามีอยู่ 69 คะแนน ตามด้วย ยูเว่ ที่มี 68 แต้ม
ปรากฎว่านัดสุดท้าย อินเตอร์ ดันบุกพ่าย ลาซิโอ ทีมที่ถือเป็นพันธมิตรกันเฉยเลย 2-4 ขณะที่ ยูเว่ บุกชนะ อูดิเนเซ่ 2-0 ทำให้แซงเข้าป้ายคว้าแชมป์แบบเซอร์ไพรส์ อันถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นที่จดจำมากสุดของวงการลูกหนังแดนรองเท้าบู๊ตด้วย
หรือปี 2000 ที่ ยูเว่ รั้งเป็นจ่าฝูงหลังจบนัดที่ 33 ที่ 71 คะแนน ตามด้วย ลาซิโอ 69 แต้ม
90 นาทีสุดท้าย ลาซิโอ เปิดบ้านถล่มเอาชนะ เรจจิน่า ไปได้แบบสบาย 3-0 ส่วน ยูเว่ เจอฝนกระหน่ำที่ เปรูจา โดยที่ผู้ตัดสิน ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า ไม่สามารถเลื่อนเกมได้ เพราะเป็นนัดตัดสินแชมป์พอดี สุดท้ายจึงต้องเตะกันต่อ และเป็นเจ้าถิ่นที่เบียดชนะ 1-0 ส่งให้พลพรรค “อินทรีฟ้า-ขาว” ที่เตะจบก่อน และรอลุ้นกันอยู่ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก ได้เฮกันลั่น
นั่นคือ 2 ฤดูกาลที่คลาสสิคสุดแล้ว
แต่มันก็ยังมีการตัดสินแชมป์กันในนัดสุดท้ายที่ผู้นำไม่พลาดเช่นกัน
ย้อนไปซีซั่น 1998-99 หลังผ่านนัดรองสุดท้าย มิลาน นำเป็นจ่าฝูงที่ 67 คะแนน ตามด้วย ลาซิโอ 66 แต้ม
ผลคือ มิลาน บุกชนะ เปรูจา 2-1 ขณะที่ ลาซิโอ ก็เฝ้ารังเฉือน ปาร์ม่า 2-1 แชมป์จึงตกเป็นของทีมของ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี่
หรือฤดูกาล 2007-08 ที่ อินเตอร์ กับ โรม่า กำลังขับเคี่ยวกันเลย
จบนัดที่ 37 อินเตอร์ รั้งจ่าฝูงที่ 82 คะแนน ส่วน โรม่า 81 แต้ม
เกมนัดสุดท้ายหลังผ่านครึ่งแรกกลายเป็นว่า โรม่า บุกนำ คาตาเนีย ขณะที่ อินเตอร์ ยังทำอะไร ปาร์ม่า ไม่ได้ที่ เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่ สถานการณ์ตอนนั้นจึงเอนไปที่ฝั่งของ “หมาป่าเหลือง-แดง” แล้ว
แต่ครึ่งหลังเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ที่ถูกเปลี่ยนลงเป็นสำรอง และเป็นเขาเองที่รับบทฮีโร่ทำคนเดียว 2 ประตูให้ “เนรัซซูร์รี่” เป็นฝ่ายชนะ 2-0 พร้อมคว้าสคูเด็ตโต้ได้อย่างสุดระทึก
เช่นเดียวกับซีซั่น 2009-10 ที่ อินเตอร์ กับ โรม่า ต้องแย่งแชมป์กันอีกแล้ว
ตอนนั้นต้องลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้าย ปรากฎว่าเก็บชัยได้ทั้งคู่ โดย อินเตอร์ ได้ ดีเอโก้ มิลิโต้ ที่ซัดประตูชัยเหนือ เซียน่า ทำให้คว้าสคูเด็ตโต้มาครอง ก่อนจะเถลิงขึ้นไปคว้าทริปเบิ้ลแชมป์อย่างยิ่งใหญ่
เรายังไม่รู้หรอกว่าเกมวันอาทิตย์นี้จะลงเอยแบบไหน
มิลาน จะได้สคูเด็ตโต้ตามที่หลายคนคาด หรือจะมีดราม่าที่ อินเตอร์ ปาดหน้าเอาไปครอง
แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ มันจะเป็น 90 นาทีที่ยาวนาน และเป็น 90 นาทีที่จะตัดสินทั้งหมดสำหรับที่ทั้งสองทีมได้ทำมา
เป็น 90 นาทีสุดท้ายที่เราไม่สามารถพลาดได้เลย!
