จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญทัพ “ช้างศึก”

25

“มาโน่ โพลกิ้ง – วสพล แก้วผลึก” จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสู่ความสำเร็จทัพ “ช้างศึก”
#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

การต่อสู้ในเกมลูกหนัง คือการต่อสู้ที่ไม่ได้หวังพึ่งแค่ความสามารถของใครคนใดคนหนึ่ง หากแต่เกิดจากการทำงานร่วมกันเป็นทีม โดยนำความรู้ ความเชี่ยวชาญ การตัดสินใจในสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน และการวิเคราะห์ที่เฉียบขาดของแต่คนมาหล่อหลอมรวมกันให้เกิดเป็นโมเม้นต์ที่ดีที่สุดเพื่อชัยชนะของทีมอันเป็นเป้าหมายสูงสุด

ทีมชาติไทยก็เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถไปถึงเป้าหมายได้โดยหวังพึ่งใครคนใดคนหนึ่ง ทุกอย่างย่อมเดินหน้าด้วยคำว่า “ทีมเวิร์ค” คล้ายๆ กับจิ๊กซอว์สองชิ้นสำคัญที่หล่อหลอมการทำงานร่วมกันจนการเป็นพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจ และขับเคลื่อนให้ทัพ “ช้างศึก U23” มุ่งสู่ความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง

ใช่ครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงกุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ และชุดลุยซีเกมส์ 2021 อย่าง มาโน่ โพลกิ้ง และผู้ช่วยผู้ฝึกสอนที่คอยเติมเต็มทุกสิ่งอย่าง “โค้ชเอ็กซ์” วสพล แก้วผลึก

เส้นทางการทำงานของสองท่านนี้น่าสนใจ เพราะนี่ไม่ใช่การเพิ่งมาจับคู่กัน หากแต่พวกเขาทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2012 ในยุคที่ทัพ “ช้างศึก” มี วินฟรีด เชเฟอร์ เป็นเฮดโค้ช และมีมาโน่ โพลกิ้ง เป็นผู้ช่วยฯ

จากทีมชาติไทยยุคนั้น “มาโน่ – วสพล” ก็แทบไม่เคยห่างกันอีกเลย ทั้งสองต่างทำงานร่วมกันไล่มาตั้งแต่ อาร์มี่ ยูไนเต็ด, สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อนจะมาสร้างชื่อในฐานะคู่ดูโอที่เนรมิต ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ให้กลายเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดันมากกว่าใครบนเวทีไทยลีก ด้วยแพสชั่นที่เต็มเปี่ยม อารมณ์ร่วมที่ทำให้แฟนบอลไทยทั้งประเทศได้เห็นว่า การเป็นเฮดโค้ช และผู้ช่วยนั้นจำเป็นที่จะต้องมีฟีลลิ่งที่ไม่ต่างไปจากนักเตะในสนาม ตลอดจนการสื่อสารที่ชัดเจน พร้อมแฝงไปด้วยจิตวิทยาขึ้นสูง คือสิ่งสำคัญที่มีอยู่ในตัวทั้งสองคนนี้อย่างแท้จริง

จนมาถึงวันที่ทั้ง “มาโน่ – วสพล” ก้าวมารับงานที่ทรงเกียรติ และเปี่ยมไปด้วยความกดดัน และความคาดหวังจากแฟนบอลไทยทั้งประเทศอย่าง “ทีมชาติไทย” ด้วยเป้าหมายของการพาทัพ “ช้างศึก” กลับมาประสบความสำเร็จ และทวงบัลลังก์จ้าวอาเซียนให้ได้เป็นลำดับแรก

แชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คือการการันตีถึงความยอดเยี่ยมของทั้งสองในการทำงานร่วมกัน ทั้งแนวทางรูปแบบการเล่นของ มาโน่ โพลกิ้ง บวกกับการวิเคราะห์เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ มาโน่ โพลกิ้ง มองไม่เห็น และการเป็นหัวใจในการสื่อสารของ วสพล ที่เปรียบเสมือนผู้ที่ต้องสรุปข้อมูล และถ่ายทอดให้กับทุกคนในทีมได้เข้าใจตรงกับเจตนาของ มาโน่ โพลกิ้ง มากที่สุด นี่คือความยากที่ วสพล ต้องเผชิญ

หากแต่ประสบการณ์ในเส้นทางสายลูกหนัง และการเดินทางร่วมกันมาอย่างยาวนานของทั้งสอง ได้ทลายกำแพงแห่งอุปสรรคที่ขวางอยู่ข้างหน้าเพื่อพาทีมชาติไทยมุ่งตรงไปยังเป้าหมายสูงสุดนั่นคือ “ชัยชนะ” พร้อมไปกับการ “พัฒนา” องค์ประกอบหลายๆ อย่างเพื่อไปถึงจุดของความเป็นมืออาชีพ จนทั้งสองได้รับความไว้วางใจให้พาทัพ “ช้างศึก U23” ลุยซีเกมส์หนนี้ที่ประเทศเวียดนาม

แม้ว่าเราจะออกสตาร์ทได้ไม่ตรงตามเป้า แถมยังเป็นการประเดิมความพ่ายแพ้ในการพบกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง มาเลเซีย แต่ทว่าสองเกมหลังจากนั้น ทั้งมาโน่ และวสพล ต่างได้ลืมความพ่ายแพ้จากเกมแรกไป พร้อมกับนำสิ่งที่เราต้องแก้ไขเพื่อทำให้ทีมชุดนี้ดีขึ้น จนเราสามารถกวาด 6 คะแนนเต็มเหนือ สิงคโปร์ และกัมพูชา พร้อมกับ 10 ประตูที่เรารัวใส่คู่แข่งทั้งสองจนพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นอันดับสองของกลุ่ม พร้อมกับโอกาสในการจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม

ในมุมของผม ผมมองว่าทั้ง มาโน่ โพลกิ้ง และวสพล แก้วผลึก แตกต่างไปจากโค้ช และผู้ช่วยคู่อื่นๆ ในบ้านเราก็คือ ทั้งสองมีความเป็นมืออาชีพ ที่มีส่วนผสมของความเป็น “ตะวันตก” ในแง่ของการทำงาน ที่ต้องเป๊ะ ต้องมีมาตรฐาน และให้ความสำคัญกับ “รายละเอียด” เล็กๆ น้อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ดีเทลเล็กๆ เหล่านั้นมาทำลายเป้าหมายของทีม แต่ในขณะเดียวกันทั้งสองก็มีความเข้าใจในธรรมชาติของนักเตะไทย แต่ก็ไม่ได้ปล่อยผ่านให้ทีมเสียวินัย

จิตวิทยา ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่เป็น “จุดแข็ง” ในการทำงานร่วมกันของทั้งสอง ด้วยคาแรกเตอร์ข้างสนามที่ มาโน่ และวสพล แสดงให้คู่แข่งเห็นได้ชัดเลยว่า ทั้งสองไม่เคยกลัวที่จะพ่ายแพ้เลยแม้แต่น้อย ด้วยภาษากายที่ดุดัน แพสชั่นการเฉลิมฉลองทุกๆ ประตูแบบไม่มีกั๊ก คือการกระทุ้งกลับไปที่ฝั่งคู่แข่งให้รู้สึกหวั่นใจกรายๆ การแถลงข่าวหลังเกม การสื่อสารกับสื่อมวลชน ทั้งหมดนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับเป็นสิ่งที่ทั้งสองใส่ใจ และทำได้ดีจนทำให้ทุกๆ คนเกิดความมั่นใจกับทุกๆ การต่อสู้ของทีมชาติไทย ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอล หรือนักเตะก็ตาม

บวกกับความสามารถในด้านภาษา และการถ่ายทอดออกมาของ วสพล แก้วผลึก ในฐานะมือขวาคนสำคัญ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจชิ้นสำคัญที่ทำให้เรายกระดับทีมขึ้นมา ซึ่งจุดนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่การแปลจากภาษาอังกฤษออกมาให้เป็นภาษาไทยแล้วพูดออกไปเท่านั้น แต่มันคือการทำอย่างไรให้ผู้รับสารปลายทางอย่างนักฟุตบอล ตลอดจนทีมสต๊าฟคนอื่นๆ ได้เข้าใจสิ่งที่ มาโน่ โพลกิ้ง ต้องการจะสื่อสารออกไปให้มากที่สุด ยิ่งเป็นการสื่อสารในเรื่องฟุตบอลที่มีปัจจัยในเรื่องของบรรยากาศรอบข้าง ความกดดัน ผลการแข่งขัน ณ ปัจจุบัน และสิ่งที่เราต้องการจะทำในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งมองดูแล้วมันไม่ง่ายเอาซะเลย แต่ “โค้ชเอ็กซ์” สามารถทำได้ดีมากๆ

ผมมองว่าคนที่จะเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ต้องมีความสามารถสูง แข็งแกร่งทั้งร่างกาย และจิตใจ พร้อมกับมีสติในการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่คาดฝันตลอดเวลา ซึ่งผลงานของทีมชาติไทยที่ออกมาทั้งทีมชุดใหญ่ และชุดซีเกมส์หนนี้ ก็เป็นการสะท้อนออกมาแล้วว่า วสพล แก้วผลึก นั้นทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยผู้ฝึกของทีมชาติไทยได้อย่างยอดเยี่ยม นี่คือคนรุ่นใหม่ที่ผมเฝ้าจับตา และเชื่อว่าในวันที่เขาก้าวไปถึงการมี โปร ไลเซนส์ อยู่ในมือ วสพล ก็พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นบุคลากรฟุตบอลที่น่าจับตามากที่สุดคนหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย ด้วยความเข้าใจเรื่องศาสตร์ฟุตบอล ประสบการณ์เส้นทางสายลูกหนังอันเหลือล้น บวกกับภาษา การถ่ายทอด และการสื่อสารเชิงจิตวิทยาอันยอดเยี่ยม

ไม่ว่าสุดท้ายเราจะต้องโคจรไปเจอกับใครในรอบรองชนะเลิศ จะเป็น เวียดนาม ชาติเจ้าภาพ และคู่ปรับตลอดกาลอย่างที่ใครต่อใครคาดการณ์กันไว้รึเปล่า ผมว่ามันคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับการที่เรามี มาโน่ โพลกิ้ง และวสพล แก้วผลึก ที่เคยผ่านหลักสูตรการปราบทัพ “ดาวทอง” จากศึกชิงแชมป์อาเซียนหนล่าสุด พร้อมกับแพสชั่นที่พร้อมเขย่าขวัญม้านั่งสำรองของ เวียดนาม และไม่มีเหตุผลเลยสักนิดที่เราจะต้องกลัวกับการเผชิญหน้า เวียดนาม เพราะสุดท้ายถ้าคุณอยากจะเป็นแชมป์ คุณอยากจะได้เหรียญทอง ต่อให้คู่ต่อสู้ของคุณจะเป็นยอดมนุษย์มาจากไหน คุณก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้อง “เอาชนะ” ให้ได้สถานเดียว

ผมเชื่อมั่นว่าท้ายที่สุดแล้ว ดูโอช้างศึกอย่าง “มาโน่ – วสพล” นั้นจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้เราไปถึงฝั่งฝันนั่นคือ “เหรียญทอง” ซีเกมส์หนนี้ได้ ในฐานะจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญสู่ความสำเร็จของทัพ “ช้างศึก ได้อย่างแน่นอนครับ…

#โปรแกรมฟุตบอลชายทีมชาติไทยในซีเกมส์ มีดังนี้

🗓 16 พฤษภาคม ⏰ เวลา 19.00 น.
🇱🇦 สปป.ลาว พบ ทีมชาติไทย 🇹🇭

🗓 19 พฤษภาคม
รองรองชนะเลิศ

🗓 22 พฤษภาคม
🥇 รอบชิงเหรียญทอง กับ 🥉 ชิงเหรียญทองแดง

#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต

#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #ช้างศึกU23 #ทีมชาติไทยU23 #SEAGames31 #SEAGames2021 #SEAGames #ซีเกมส์

แบ่งปัน