ส่องแนวโน้ม “ช้างศึก 23” กับภารกิจล่าทองซีเกมส์

22

#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

แม้ว่า ณ เวลานี้จะยังไม่มีการออกมาประกาศ 20 รายชื่อผู้เล่นทีมชาติไทยชุดลุยศึกซีเกมส์ 2021 อย่างเป็นทางการ แต่การออกมายืนยันจาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ว่าสามแข้งไทยจากต่างประเทศนำโดย เบนจามิน เดวิส (อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด), โจนาธาน เข็มดี (โอบี โอเด็นเซ) และ ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช (เอสโตริล) ได้ตอบรับพร้อมร่วมการแข่งขันซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม

เช่นเดียวกับนักเตะไทยอย่าง เมธี สาระคำ, จักรกริช พาละพล, ธิติ ทุมพร, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ อิรฟาน ดอเลาะ ที่ทางสโมสรพร้อมจะปล่อยตัว เช่นเดียวกับนักเตะจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ตลอดจนโควต้าผู้เล่นอายุเกินที่คาดว่าล้วนแต่พกดีกรีทีมชาติไทยชุดใหญ่ทั้งหมด ก็พอจะยืนยันได้ว่า ทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชุดนี้ แข็งแกร่ง และพร้อมแล้วกับการไล่ล่าความสำเร็จด้วยเป้าหมาย “เหรียญทอง” อย่างแน่นอน

เพราะแต่ละคนที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนแต่เป็นนักเตะตัวหลักของแต่ละสโมสร มีประสบการณ์ในเส้นทางการค้าแข้งมาไม่น้อย อีกทั้งหลายๆ คนยังผ่านการไต่เต้าสู่ทีมชาติไทยตั้งแต่ในระดับเยาวชน เรียกได้ว่าเราเองก็ค่อนข้างที่จะเหนือกว่าคู่แข่งอยู่ไม่น้อย หากวัดดีกรีขุมกำลังกันแบบรายต่อราย

แต่ “ความประมาท คือหนทางสู่ความตาย” การมองว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าคู่แข่งมากเกินไป ก็อาจจะเป็นดาบสองคมที่ย้อนกลับมาทิ่งแทงให้ทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้ต้องพบกับความผิดหวังก็เป็นได้ เพราะด้วยโปรแกรมที่เตะกันถี่ยิบชนิดแทบไม่ได้หายใจหายคอ บวกกับความกระหายของชาติคู่แข่งหลายๆ ชาติไล่มาตั้งแต่เจ้าภาพอย่าง เวียดนาม ที่หมายมั่นปั้นมือจะล้ม ไทย ให้ได้, อินโดนีเซีย ที่นำทัพโดยวันเดอร์คิดอย่าง เอกี เมาลาน่า กับ วิตัน ซูเลมาน, มาเลเซีย ที่มักจะทำตัวเป็นทีมจอมแสบยามพบกับเราเสมอ และสิงคโปร์ ที่ใส่ชื่อสองพี่น้องฟานดี้อย่าง อิรฟาน – อิคซาน จากบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ลงไล่ล่าเหรียญทอง

ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ทำให้เราจำเป็นต้องมุ่งมั่นมากกว่าเดิมหากยังหวังที่จะประสบความสำเร็จในรายการนี้ เช่นเดียวกับการวางแผนบริหารจัดการโดยเฉพาะการฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักเตะ แทคติกของทีมสต๊าฟที่ต้องไม่ยึดติดแค่แพลนเอ แต่จำเป็นต้องมีแพลนบี และซี รองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเสมอ รวมถึงสมาธิที่ต้องพร้อมรับมือกับความกดดันทั้งใน และนอกสนาม เพราะอย่าลืมว่านี่คือรายการที่เปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง ดังนั้นการรับมือกับความกดดันได้ดี ก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่พาทีมชุดนี้ประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้

สองเกมแรกกับ มาเลเซีย และสิงคโปร์ จะเป็นเครื่องชี้วัดเลยว่าเราดีพอที่จะก้าวไปถึงเหรียญทองหรือไม่ นี่คือโจทย์ที่ทางทีมงานสต๊าฟต้องวางแผนให้ดีว่าจะต้องทำอย่างไร เพื่อออกสตาร์ทด้วยการคว้า 6 คะแนนเต็มให้ได้ และเป็นการลดความกดดันจากแฟนบอล เช่นเดียวกับการลงสนามโดยที่ไม่ต้องไปสนใจว่าฝั่ง เวียดนาม เองจะเล่นด้วยฟอร์มแบบไหน จะจบอันดับที่อะไรในอีกกลุ่ม เพราะถ้าเราดีพอ ต่อให้รอบตัดเชือกจะต้องเป็นการลงสนามพบกับเจ้าภาพ เราก็พร้อมลุยอย่างเต็มที่เพื่อ “เหรียญทอง”

ผมขอเป็นกำลังใจให้กับนักเตะ และทีมสต๊าฟทีมชาติไทยชุดลุยศึกซีเกมส์ 2021 ทุกคนนะครับ…

โดยโปรแกรมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ในซีเกมส์ มีดังนี้

🗓 7 พฤษภาคม ⏰ เวลา 19.00 น.
🇹🇭 ไทย พบ มาเลเซีย 🇲🇾

🗓 9 พฤษภาคม ⏰ เวลา 19.00 น.
🇹🇭 ไทย พบ สิงคโปร์ 🇸🇬

🗓 14 พฤษภาคม ⏰ เวลา 19.00 น.
🇰🇭 กัมพูชา พบ ไทย 🇹🇭

🗓 16 พฤษภาคม ⏰ เวลา 19.00 น.
🇱🇦 สปป.ลาว พบ ไทย 🇹🇭

🗓 19 พฤษภาคม
รองรองชนะเลิศ

🗓 22 พฤษภาคม
🥇 รอบชิงเหรียญทอง กับ 🥉 ชิงเหรียญทองแดง

#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต

#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #ช้างศึกU23 #ทีมชาติไทยU23 #Seagames #ซีเกมส์

แบ่งปัน