สาเหตุและทางออก “บาร์ซ่า”

สาเหตุและทางออกของ บาร์ซ่า หลังติดลบ 144 ล้าน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ลา ลีกา (LFP) ออกมาเปิดเผยงบการเงินของแต่ละสโมสร ปรากฏว่า บาร์เซโลน่า รั้งอันดับสุดท้ายจากบรรดา 20 ทีม

ยักษ์ใหญ่กาตาลัน เป็นสโมสรเดียวที่ติดตัวแดง โดยติดลบมากถึง 144 ล้านยูโร พลิกจากตัวเลขเดิมที่เปิดเผยเมื่อซัมเมอร์ปี 2021 ว่าสโมสรได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายได้ 97 ล้านยูโร เท่ากับว่าระยะเวลา 9 เดือนที่ผ่านมาสโมสรมีรายได้น้อยกว่ารายรับมากถึง 241 ล้านยูโร

เรื่องนี้สร้างความวิตกให้กับแฟนอาซูลกราน่าไม่น้อย ด้วยเพราะสโมสรมีโปรเจคต์ใหญ่ในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์ปีนี้ โดยเฉพาะ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ หัวหอกทีมชาตินอร์เวย์ของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งถือเป็นเป้าหมายอันดับ 1 รวมสตาร์ดังรายอื่นๆที่หมายตาไว้
……………………..
1.อะไรทำให้ บาร์เซโลน่า ติดลบเกินทะลุเพดานการเงินขนาดนี้ ?

จากคำอธิบายของ ฆาเบียร์ โกเมซ ผ.อ.ทั่วไปของ ลา ลีกา ระบุว่า สาเหตุมาจากการขาดทุนสะสมมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

การที่รายจ่ายพุ่งทะยานแซงรายรับนั้น สาเหตุสำคัญมาจากการขาดทุนสะสม ซึ่งก็มีทั้งค่าใช้จ่ายเดิมที่ไม่สามารถทำให้ลดลงได้

ที่มีผลที่สุดก็คือค่าใช้จ่ายที่มาจากโครงสร้างสโมสรและหนี้เดิมที่มีอยู่ ซึ่งหลายก้อนถึงกำหนดที่ต้องชำระในปีนี้ ทำให้ถูกคิดรวมเข้ามาด้วย ขณะที่ในส่วนของรายได้ สโมสรยังหาได้ไม่โคเวอร์ในสิ่งที่ใช้จ่ายไป
……………………..
2.ถามว่าสาเหตุมาจากการเสริมทัพในช่วงมกราคมหรือไม่ ?

มีผลกระทบ แต่ไม่มาก ตัวเลขติดลบส่วนใหญ่ล้วนแต่มาจากการบริหารขาดทุนจนเป็นหนี้สะสมในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ และค่าใช้จ่ายที่มาจากโครงสร้างของสโมสร ค่าจ้างพนักงาน ค่าบำรุงรักษาต่างๆ ค่าเหนื่อยนักเตะ
……………………..
3. เมื่อติดลบตัวแดงมากถึง 144 ล้านยูโร ทำไมมกราคมที่ผ่านมา บาร์เซโลน่า ยังสามารถเซ็นนักเตะใหม่ได้ถึง 4 คน แถมหนึ่งในนั้นยังมีค่าตัวถึง 55 ล้านยูโร ?

กฏข้อที่ 100 ของ ลา ลีกา ซึ่งเรียกกันสั้นๆว่า ‘กฏ 1 ต่อ 4’ ถือเป็นกฏที่ยืดหยุ่นให้ทีมที่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเพดานที่กำหนดยังสามารถซื้อหรือเซ็นสัญญากับนักเตะใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งได้

โดยกฏอนุญาตว่า หากฤดูกาลปัจจุบัน สามารถตัดค่าใช้จ่าย หรือประหยัดเงินได้เท่าไหร่ จะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ 1 ใน 4 ของเม็ดเงินนั้น

ยกตัวอย่างเช่น ลดหรือตัดค่าใช้จ่ายได้ 100 ยูโร ก็จะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้ 25 ยูโร อย่างไรก็ตามจากคำอธิบายของ ฆาเบียร์ โกเมซ ผ.อ.ลา ลีกา เกี่ยวกับกฏข้อนี้เมื่อวันจันทร์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เขาพูดว่า “25%-50%”

นั่นสามารถตีความได้ว่า ปัจจุบัน ลา ลีกา ยอมเปิดทางให้ทีมที่มีค่าใช้จ่ายเกินเพดานสามารถใช้จ่ายจากเงินที่พวกเขาประยัดได้สูงสุดถึง 50% ไม่ใช่ 25% เป๊ะอย่างที่เข้าใจ
……………………..
4. เดือนมกราคม บาร์เซโลน่า ประหยัดหรือตัดรายจ่ายจากตรงไหนบ้าง ?

4.1 การเจราจาต่อสัญญากับ แซม อุมตีตี้ พร้อมกับลดค่าเหนื่อยลง
4.2 การยกเลิกสัญญากับ เซร์คิโอ อาก้วยโร่ ‘กุน’
4.3 การปล่อย ฟิลิเป้ กูตินโญ่ ให้ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวไปใช้งาน
4.4 การตัดสินใจไม่ใช้อ๊อปชั่นซื้อและปล่อย ยูซูฟ เดมีร์ กลับต้นสังกัดเดิม

กรณีของ ยูซูฟ เดมีร์ ถือเป็นกรณีศึกษาเพราะทำให้รับทราบหลักการคิดเงินของ ลา ลีกา มากขึ้น โดย เดมีร์ นั้นไม่ถือว่าเป็นการซื้อของ บาร์เซโลน่า แต่อยู่ในสัญญายืมตัว

ทว่าสำหรับ ลา ลีกา แล้ว เมื่อ เดมีร์ ลงเล่นให้ทีมครบ 10 เกมขึ้นไป จะถือว่าเป็นนักเตะของ บาร์เซโลน่า โดยสมบูรณ์ ทำให้ ลา ลีกา บวกค่าตัวของ เดมีร์ รวมไปในค่าใช้จ่ายของสโมสรอีก 10 ล้านยูโรโดยอัตโนมัติ ทั้งๆที่เรื่องจริง ไม่มีการซื้อขายแต่อย่างใด

ดังนั้นเมื่อ บาร์ซ่า ไม่ใช้อ๊อปชั่นซื้อขาด และปล่อย เดมีร์ คืนต้นสังกัดเดิม ราปิด เวียนนา ลา ลีกา จึงตัดลดเงินตรงส่วนค่าใช้จ่ายลง 10 ล้านยูโร
……………………..
ตัวเลขที่เกินเพดานไปมาก ส่งผลกระทบต่อการเซ็นสัญญาของ บาร์ซ่า ในซัมเมอร์นี้หรือไม่ ?

ตามกฏควบคุมเพดานการเงินของ ลา ลีกา นั้น ไม่มีสโมสรใดได้รับสิทธิพิเศษเหนือใคร ดังนั้น บาร์เซโลน่า จะได้รับผลกระทบในตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้อย่างแน่นอน หากว่าสโมสรไม่สามารถตัดลดค่าใช้จ่าย หรือประหยัดให้มากขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม ทางแก้ปัญหาที่พูดถึงกันมาตลอดและทำได้จริงก็คือการหาเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ในตัวเลขที่มากพอ

บาร์เซโลน่า มีข่าวว่าใกล้บรรลุข้อตกลงกับ spotify แต่ยังไม่มีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ ซึ่งคาดว่าจนก่อนช่วงตลาดหน้าร้อนปิดตัวลงก็ยังอาจจะไม่เรียบร้อย ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงเหลืออีก 2 ตัวเลือก

ทางออกที่ดีที่สุดของ บาร์เซโลน่า ในเวลานี้ก็คือตอบรับข้อเสนอจากกองทุน CVC ซึ่งบรรลุข้อตกลงกับ ลา ลีกา ไปเมื่อช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมาซึ่งมีมูลค่าของสัญญาสูงถึง 1,994 ล้านยูโร

หากตอบรับ บาร์เซโลน่า จะได้รับเงินอัดฉีดช่วยเหลือราว 270 ล้านยูโรจาก CVC นอกจากนั้นแล้วสโมสรก็คงจะต้องขายหุ้นของ Barça Studios จำนวน 49% ให้กับบริษัทเอกชน หรือกองทุนอื่นๆ

การขายหุ้น Barça Studios ได้ผ่านมติเห็นชอบจากสภาโซซิโอของสโมสรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งประเมินกันว่าสโมสรจะได้รับเงินจากการขายราว 350 ล้านยูโร

เมื่อรวมกับเงินที่จะได้รับจาก CVC (ในกรณีที่ตอบตกลงเซ็นสัญญา) เท่ากับ บาร์เซโลน่า จะรับเงินเข้ากระเป๋าราว 570 ล้านยูโร ซึ่งสามารถโควเวอร์รายจ่ายที่เกินเพดาน 144 ล้านยูโรได้อย่างไร้ปัญหา
……………………..
เรื่องนี้ทาง ออสการ์ มาโย กรรมการบริหารของ ลา ลีกา เพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ว่าการบรรลุข้อตกลงระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ CVC นั้นไม่มีนอกมีในใดๆ ไม่มีเงื่อนไขพิเศษเหนือกว่าสโมสรอื่นๆที่ตอบตกลงไปแล้ว

ว่ากันในเชิงกลยุทธ์แล้ว การที่ ลา ลีกา ที่นำโดย ฆาเบียร์ เตบาส ได้ บาร์เซโลน่า เข้ามาเป็นพันธมิตรทำให้พวกเขายิ่งมีอำนาจในการต่อรองมากยิ่งกว่าเดิม ถือเป็นการเพิ่มความกดดันให้กับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสรเรอัล มาดริด

หมากกระดานนี้ เตบาส กำลังรุกฆาตใส่ เปเรซ จนแทบจนมุม ซึ่งก็ต้องดูว่า ประธานชุดชาวเจ้าของฉายา มาเฟียสเปน จะพลิกสถาการณ์ได้หรือไม่ และด้วยวิธีใด

แต่ที่แน่ๆ หลัง บาร์เซโลน่า มีท่าทีว่าจะหันไปจูบปากกับ ลา ลีกา และ CVC คนที่กำลังจะโดนเฉ่งคนแรกย่อมหนีไม่พ้น โจน ลาปอร์ต้า

แรกเริ่มปฏิเสธ CVC แข็งขันถึงขนาดยอมทิ้ง เลโอ เมสซี่ โดยอ้างว่าเพื่ออนาคตของสโมสร ไม่กี่เดือนให้หลัง เปลี่ยนใจอ้ารับ CVC ซะงั้น เออ…พึลึกดีเหมือนกันแฮะ

#เจมส์ลาลีกา

หมายเหตุ : บาร์ซ่า สตูดิโอ คือโปรดักชั่นเฮาส์ของสโมสรที่ประกาศเปิดตัวไปเมื่อเดือนมกราคม 2019 รับผิดชอบในการผลิตและจัดจำหน่ายคอนเทนต์ทั้งหมดของสโมสรทั้งในรูปแบบภาพและเสียง

beIN SPORTS Thailand