เมื่อวันก่อนผมมีโอกาสได้ไปพบเจออดีตศูนย์หน้าชุดเรืองรองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่าง แอนดี้ ‘คิง’ โคล มาครับ
ในการเจอดังกล่าวมีการให้สื่อยิงคำถามสัมภาษณ์ประเด็นต่างๆและแน่นอนว่านอกเหนือจากประเด็นแดงเดือดก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับมุ้งภายในสโมสร
โดยเฉพาะกับสปิริตและกัปตันทีมในตอนนี้ที่ดูเหมือนจะเลือนลางหายไปหมดแล้ว
โคล กล่าวเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจครับเกี่ยวกับเรื่องสปิริตทีม
“ผมคงตอบคำถามนี้ให้กับคุณไม่ได้หรอก” โคลเริ่มต้น
“ยุคสมัยของผมมันเต็มเปี่ยมไปด้วยแพสชั่นทั้งในสนามและห้องแต่งตัว เรามีความมุ่งมั่น เราได้แรงกระตุ้นจาก เซอร์ อเล็กซ์ (เฟอร์กูสัน) และเรายังมีกัปตันที่ยอดเยี่ยมอย่าง รอย คีน”
“เขาผลักดันเราเสมอดังนั้นผมจึงพูดได้แต่ยุคสมัยที่ผมเคยเล่นด้วยเท่านั้น ผมจึงไม่สามารถบอกได้ว่าทีมชุดนี้เป็นยังไง”
กัปตันแบบ รอย คีน
ผมเชื่อว่าถ้าหากใครดูไม่ทันคงจะรู้จัก คีน แค่เป็นคอมเม้นท์เตเตอร์จอมแขวะจอมแซะเกาะติด แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอดแต่สิ่งที่เขาพูดออกมานั้นบางอย่างมันก็เถียงไม่ได้เลยจริงๆ
คาแรคเตอร์ของ คีน ยังโดดเด่นเสมอยามรับหน้าที่เป็นกูรูให้กับ ‘SkySports’
สิ่งที่ คีน พูดออกมาผมขอหยิบยกตัวอย่างให้เห็นภาพแล้วกันครับอดีตกัปตันชาวไอริชเพิ่งจะสับแหลกหลังเกมที่ “ปีศาจแดง” พ่ายแพ้ ลิเวอร์พูล แบบหมดสภาพ 5-0 ในฤดูกาลนี้
“ยูไนเต็ด เต็มไปด้วยนักเตะพรสวรรค์ เอาจริงๆพวกเขาควรเปิดเกมรุกบ้างแต่นี่เอาแต่ตั้งรับ แม็คไกวร์ กับ ลุค ชอว์ เมื่อสัปดาห์ก่อนพวกเขาคือความอัปยศ พวกเขาคือความอัปยศของสโมสร”
“นี่น่ะเหรอนักฟุตบอลระดับชาติ”
“แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะต้องมีนักเตะที่เต็มไปด้วยคาแรคเตอร์และบุคลิกที่ยอดเยี่ยม แต่ผมมองไม่เห็นเลยในทีมนี้”
“ผมได้ยินเกี่ยวกับ แม็คไกวร์ มาตอดทั้งสัปดาห์เขาเหมือนกับหุ่นยนต์ เขาแบบ ‘เอ่อ ขอโทษต่อแฟนๆด้วยครับ’ แต่มันไม่มีเรื่องอารมณ์ความรู้สึกข้างในเลย คนเหล่านี้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษที่เพิ่งมีผลงานในยูโรยอดเยี่ยม พวกเขามีประสบการณ์เกมใหญ่ๆมากมายแต่ตอนนี้คุณดูสิ ชอว์ กลับเป็นเหมือน 2-3 ปีก่อน”
“ผมโคตรเบื่อกับคำพูดหลังเกมที่ออกมาขอโทษมากๆเลย แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เอาแต่พูด ‘เราจะต้องรวมเป็นหนึ่ง’ ไม่ เลิกเถอะเอาเกมของตัวเองให้ดีก่อน”
“ถ้าหากคุณเป็นผู้นำคุณจะต้องทำพื้นฐานของตัวเองให้ถูกต้อง มันไม่เกี่ยวอะไรกับความฟิตแต่มันเกี่ยวกับความเป็นมืออาชีพ”
คีน พูดประมานนี้มาตลอด เมื่อก่อนเขาเน้นย้ำถึงความเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งก็น่าจะหาไม่ได้ในทีมชุดนี้ทำให้ คีน จึงเน้นย้ำเกี่ยวกับเรื่องของความเป็นมืออาชีพแทน
น่าแปลกใจนะครับที่อดีตนักฟุตบอลคนหนึ่งถามหาความเป็นมืออาชีพจากนักฟุตบอลยุคปัจจุบัน
เรื่องของ โคล ยังไม่จบครับพอเจ้าตัวกล่าวถึง รอย คีน ก็ทำให้มีคำถามยิงเปรี้ยงไปหาเขาอีกว่าใครคือกัปตันที่ดีที่สุด
“รอย คีน สิจะใครล่ะ !” โคล ตอบแบบไม่ต้องคิด
“ผมไม่รู้หรอกว่าตอนนี้กัปตันของสโมสรเป็นยังไง ผมไม่รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรมากนักซึ่งกัปตันของสโมสรตอนนี้ก็มีมช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นเดียวกับทีม”
มันคือการเลี่ยงตอบแบบเห็นได้ชัดครับแต่การที่ โคล เน้นย้ำถึง คีน มันก็ค่อนข้างชัดเจนว่าเขามองเห็นถึงอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปในยุคปัจจุบัน
สิ่งที่ โคล ให้สัมภาษณ์ออกมาดูค่อนข้างจะเพลย์เซฟและไม่อยากให้เป็นประเด็นอะไรแต่ก็ทำให้เรารู้ว่าไม่ใช่แค่แฟนๆชาวไทยหรือนักวิเคราะห์ทั่วโลกมองเห็น แต่อดีตนักเตะแบบเขาก็มองเห็น
กับคำถามที่ผมได้ถามไปเกี่ยวกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ หรือ เอริค เทน ฮาก เขาจะเลือกใครหรืออยากคนอื่นนอกเหนือจากสองคนนี้หรือไม่นั้น โคล ก็ตอบชัดเจนว่า
“ผมไม่ได้เป็นคนเลือกนะแต่ผมอยากได้คนที่นำความสำเร็จเข้ามาสู่ทีมให้มากที่สุด กับชื่อทั้งสองชื่อนี้พวกเขาคือคนที่ดี”
“แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราต่างพูดถึงกันเรื่องนี้มาโดยตลอดและไม่ว่าใครเข้ามาก็ใช่ว่าจะการันตีความสำเร็จ”
“ดังนั้นผมอยากได้คนที่นำความสำเร็จมาสู่สโมสรได้ก็พอ”
สิ่งที่ ‘คิงโคล’ พูดออกมาดูหิวกระหายมากจริงๆครับ เขาอยู่ในยุคสมัยที่ ‘เดินหน้าแล้วฆ่ามัน’ ช่วงไพรม์ไทม์ดังนั้นคงไม่แปลกใจอะไรที่เขามีคาแรคเตอร์แบบนี้ออกมา
ไหนจะการทำคลีนิคฟุตบอลกับน้อยๆจากค่าย STB Football Academy โดยโคลให้น้องๆแบ่งทีมกัน 8 คนเล่นเกมละ 2 นาที
โคล ต้องการให้น้องๆเดินหน้าทำประตูเพียงอย่างเดียวครับ เขาคอยบอกสั่งอยู่ตลอดว่าการจ่ายบอลสำคัญกว่าการเลี้ยงบอล การยิงประตูให้ได้สำคัญกว่าการลุยเดี่ยว การทำประตูในช่วงเวลา 2 นาทีนั้นคือสิ่งที่น้องๆต้องทำให้ได้
แค่สิ่งที่ โคล แสดงออกมามันก็เห็นได้ชัดสมกับเป็นศูนย์หน้าจริงๆครับว่า ‘ต้องยิง’ เท่านั้น
มันคือคาแรคเตอร์ในยุคสมัยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เติบโตและสร้างฐานแฟนบอลได้มากที่สุด มันคือดีเอ็นเอจากสไตล์การเล่นของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ส่งมอบให้กับลูกทีมทุกคน
ส่งมอบแบบเข้าเส้นมาจนถึงปัจจุบันนี่ล่ะครับ