ยุคใหม่ บอลไทย! “มาดามแป้ง” สู่ “อิชิอิ” ปี 2024 “บอลไทย” ไม่เหมือนเดิม
หลังจากเสร็จศึกเอเชียน คัพ 2023 มาซาทาดะ อิชิอิ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงทีมชาติไทย โดยมีเวลาแค่เพียง 1 เดือนนิดๆ
ถึงอย่างไรหากให้นับเวลาที่ได้เรียนรู้จักนักเตะ รวมการถ่ายทอดวิชา เชื่อว่าก่อนเกมการแข่งขันนัดแรก เฮดโค้ชรายนี้คงเจอหน้าแข้งช้างศึกไม่ถึง 10 วันด้วยซ้ำไป
แต่จากผลงานถือว่าน่าพอใจ กับประวัติศาสตร์หลายข้อที่เกิดขึ้นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม ก่อนจะร่วงตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้มีสถิติใน 4 นัด มาฝากเล็กๆน้อยๆ
ครองบอลเฉลี่ย 40.35 เปอร์เซ็นต์
โอกาสยิงประตูรวมทั้งหมด 30 ครั้ง
ยิงตรงกรอบ 9 ครั้ง ได้ 3 ประตู
ใช้ผู้เล่น 25 จาก 26 คน
หลายคนเริ่มมีความหวังกับทีมชาติ ที่มีแม่ทัพชาวญี่ปุ่น เพราะการที่เราได้กุนซือมากฝีมือระดับพระกาฬจากแดนปลาดิบ กับดีกรีที่จับต้องได้ พร้อมกับแจ้งเกิดในฟุตบอลลีกไทยมาแล้วอีกด้วย
แชมป์เจลีก
แชมป์เอ็มเพอเรอร์ คัพ
แชมป์เจลีก คัพแชมป์เจแปนนิส ซูเปอร์คัพ
ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมเจลีก
แชมป์ไทยลีก
แชมป์เอฟเอ คัพ
แชมป์ลีก คัพ
ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมไทยลีก
ไม่ใช่แค่เพียงฝีมือในการทำทีม แต่สิ่งที่กุนซือรายนี้มีมาตลอดในการคุมสโมสรทั้งในเจลีก ลีกที่ดีที่สุดในเอเชีย รวมถึงการเรียนรู้ศาสตร์ของไทยลีก ที่แตกต่างออกไป ตัวเขากลายเป็นกุนซือที่ไม่เคยร้างความสำเร็จ หรือว่าง่ายๆคือมีความเป็น “แชมป์เปี้ยนส์” อยู่ในสายเลือด
และจากผลงานใน 4 เกมแรกของรายการชิงแชมป์เจ้าเอเชีย ก็เป็นที่ประจักษ์อยู่ไม่น้อย ว่าทีมชาติของเรานั้นดูดีมีอนาคต แต่ตัวของ อิชิอิ เองยอมรับแบบตรงๆ ว่าการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่อีกขั้นไม่ใช่แค่ทีมชาติชุดใหญ่ แต่ต้องเปลี่ยนแปลง “ทั้งระบบ”
และเหมือน ปี 2024 จะเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงในวงการฟุตบอลไทยอย่างแท้จริง นอกจากเราจะได้กุนซือคนใหม่ ที่เข้ามามอบความหวัง เรายังจะได้ “นายกบอลไทย” คนใหม่ในช่วงเดือนมีนาคม
เมื่อ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกคนปัจจุบัน กำลังจะหมดวาระ และพร้อมจะส่งไม้ต่อ แน่นอนว่านาทีนี้แฟนบอลไทยคงทราบกันแล้วว่าเรากำลังจะมี “นายกบอลหญิงคนแรก” นามว่า “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ อดีตประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี
หลังจากอยู่ในวงการฟุตบอลมานานร่วม 10 ปี นอกจากประสบการณ์ที่มีเต็มเปี่ยม บารมีที่สั่งสมมาตลอดหลายปี โดยเฉพาะกับทีมชาติชุดใหญ่ ทั้งทีมหญิง และปัจจุบันกับทีมชาย ทำให้ตำแหน่งนี้แทบไม่มีคู่แข่ง
แชมป์อาเซียนคัพ 2020 : 20,000,000 บาท
แชมป์อาเซียนคัพ 2022 : 20,000,000 บาท
อุ่นเครื่องชนะเนปาล-ซูรินาม : 1,350,000 บาท
เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก : 2,000,000 บาท
อันดับ 3 คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 : 2,000,000 บาท
เข้าชิงฯ คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 : 1,000,000 บาท
รองแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 : 500,000 บาท
อุ่นเครื่องชนะฮ่องกง : 1,000,000 บาท
คัดฟุตบอลโลก : 3,000,000 บาท
เอเชียนคัพ รอบสุดท้าย : 5,000,000 บาท
ข้างต้นคือเงินอัดฉีดส่วนตัว ในระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีครึ่ง กับตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย นับรวมกว่าครึ่งร้อยล้านที่จ่ายไป นอกจากจะเป็นคนที่รักฟุตบอล ยังพร้อมเปย์ไม่ยั้ง เรียกว่าทุ่มทุนสร้างอย่างแท้จริง
2 คน ทั้ง “มาดามแป้ง” และ “อิชิอิ” จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงฟุตบอลไทย ทั้งนอกสนามในฐานะนายกบอลไทย กับในสนามในฐานะกุนซือทีมชาติชุดใหญ่
บอลไทย กำลังก้าวสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง…
#บอลไทย #ทีมชาติไทย #มาดามแป้ง #มาซาทาดะอิชิอิ #ช้างศึก #ฟุตบอลไทย #เอเชียนคัพ #Ballthai
