เดิมพันสำคัญของเป๊ป

20

เวลานี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า น่าจะเครียดไม่น้อยเลย โดยเฉพาะเมื่อไม่อาจชนะเอฟเวอร์ตันได้ ในเกมพรีเมียร์ลีกล่าสุด

ได้เล่นในเอติฮัต สเตเดี้ยมบ้านของตัวเองแท้ๆ แถมคู่แข่งก็กำลังฟอร์มแย่ ใครต่อใครคาดว่าเกมนี้คงปูพรมถล่มชุดใหญ่ไฟกระพริบ

แถมขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็ว สกอร์น่าจะไหลเหมือนน้ำหลากตามสไตล์ซิตี้ แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้นเลย

เข้าใจว่าลูกยิงตีเสมอของ เดมาไร เกรย์ มันเกิดขึ้นยากมาก ให้ซัดอีก 10 ครั้ง ไม่รู้จะเสียบตาข่ายอย่างที่เห็นหรือเปล่า

แต่คำถามค้างคาใจก็คือ เกิดอะไรขึ้นกับแมนฯซิตี้แน่ เพราะไม่ค่อยสะดุดต่อเนื่องเท่าไรนัก ประเภทล้มแล้ว รีบลุกขึ้นมาตั้งหลักได้เลย

3 นัดในลีกหลังสุด พวกเขาชนะแค่เกมเดียวเท่านั้น อีกทั้งยังไม่น่าเชื่อโดนเบรนท์ฟอร์ดบุกมาฝังคาเอติฮัตอีกต่างหาก ทำแต้มหล่นก่อนลีกเบรกพักหลีกทางให้ฟุตบอลโลก

เท่ากับว่าเกมเบรนท์ฟอร์ดและเอฟเวอร์ตันในบ้าน ควรกวาด 6 แต้มเต็ม กลับเหลือแค่ 1 เท่านั้นเอง หายไปถึง 5 คะแนนด้วยกัน

แทนที่จะจี้อาร์เซน่อลเหลือแค่ 2 คะแนน เวลานี้ห่างถึง 7 เข้าไปแล้ว เพราะทัพปืนโตเร่าร้อนเกินห้ามใจเหลือเกิน อัดไบรท์ตันกระจุย เดินหน้าอย่างดุดันไม่หวั่นเกรงใคร

หลังจบเกม เป๊ป พยายามสะกดความผิดหวังเอาไว้ ชื่นชมลูกทีมว่าเล่นกันได้ดีแล้ว ไม่มีอะไรต้องน่าตำหนิ

แต่แท็คติกของเอฟเวอร์ตัน ที่มาเน้นเกมรับให้แน่นด้วยการใช้ผู้เล่นถึง 8 คน ปักหลักหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง มันยากมากๆที่จะเจาะเข้าไป

เมื่อบวกด้วยลูกยิงอันมหัศจรรย์ของ เกรย์ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องแสดงความยินดีกับผู้มาเยือน ยอมรับผลที่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง

การขาดผู้เล่นบางตำแหน่งย่อมส่งผลกระทบ แนวรับที่ไร้เงา รูเบน ดิอาส บาดเจ็บพักหลายวีก ทำให้ไม่แน่นหนามั่นคงเท่าไร ความอุ่นใจเพื่อนร่วมทีมก็ลดระดับลงมาด้วย

กระนั้นบางครั้งเกมรุกที่เคยทรงประสิทธิภาพ ก็ตีบตันอับทึบ จนด้วยไอเดียสำหรับการนำไปสู่ประตูที่ต้องการ

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ อาจจะยังท็อปฟอร์มตามมาตรฐาน แต่ไม่มีใครหรอกที่จะระเบิดตาข่ายถล่มทลายไปได้ทุกนัด

เช่นเดียวกับ เควิน เดอ บรอยน์ ซึ่งเป็นเสมือนผู้กำหนด ก็ใช่ว่าจะป้อนให้เพื่อนซัลโวได้ตลอด

ปัญหาส่วนหนึ่งของซิตี้ที่หนีไม่พ้นก็คือ มีนักเตะแกนหลักไปเล่นฟุตบอลโลกกันมากมาย รวมแล้ว 16-17 คน จนทำให้บางรายกลับมาแบบไม่สมบูรณ์เท่าไร ยังต้องใช้เวลาฟื้นฟูร่างกายกันต่อด้วย

เงินชดเชยที่ได้มาจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ บอกเลยว่ายังไงก็ไม่คุ้มค่าอยู่แล้ว แต่สโมสรทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้

เป๊ป จึงไม่เสี่ยงใช้ผู้เล่นบางคน จับนั่งสำรองไปก่อน รอให้พร้อมเต็มที่ค่อยส่งลง พร้อมกับได้ทดสอบพวกดาวรุ่งบางรายไปในตัว

ริโก้ ลูอิส ฟูลแบ็กวัย 18 ปี ถือโอกาสนี้แจ้งเกิดสำเร็จ แม้จะเพิ่งเล่น 2-3 นัด ทว่าฉายแววแล้วว่าน่าจะเอาตัวรอดได้

เขาได้รับคำชมจากเจ้านายอย่างสม่ำเสมอ น่าจะเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับ เป๊ป ได้เลย

ประเด็นที่ต้องติดตามของซิตี้จากนี้คือ โปรแกรมที่หนักหนาสาหัส ถึงขั้นต้องวางแผนกันให้ดี สำหรับภารกิจผ่านซีรีย์โหดนี้ให้ได้

หลังจบเกมกับเอฟเวอร์ตัน ปฏิทินเปลี่ยนปีเรียบร้อย แมนฯซิตี้จะเข้าสู่โหมดฝ่าด่านโคตรโหดทันที

เริ่มจาก 5 มกราคมหรือพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ต้องบุกเยือนเชลซีในเกมลีก ตามด้วยเจอกันอีกครั้งในอีก 3 วันถัดมา เปลี่ยนวิกมาเป็นเอติฮัตบ้าง สู้กันในศึกเอฟเอ คัพ

พอวันที่ 11 มกราคม ยกพลไปเซนต์ แมร์รี่ส์ของเซาธ์แฮมป์ตันในเกมคาราบาว คัพรอบควอเตอร์ไฟนั่ล

14 มกราคมข้ามฝั่งมายังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดมีนัดดวลแมนฯยูไนเต็ดในศึกผ่าเมือง แล้วต่อด้วยต้อนรับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ในเกมลีกทั้งสองนัด

22 มกราคมปักหลักที่บ้านชนวูล์ฟแฮมป์ตัน จากนั้น 5 กุมภาพันธ์ยกพลลุยสเปอร์สอีกรอบ ตามคิวปรับใหม่ หลังจากมีการเลื่อนกันมา

12 กุมภาพันธ์รับแข้งแอสตัน วิลล่า จากนั้นอีก 3 วันลงใต้มายังลอนดอนฉะอาร์เซน่อล ด้วยเงื่อนไขต้องพยายามชนะเท่านั้น เพื่อโอกาสป้องกันแชมป์เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

ไล่เรียงคิวเตะของแมนฯซิตี้แล้วก็ให้น่าหวั่นใจแทน แม้สถิติของพวกเขามักจะทำได้ดีเมื่อเจอบิ๊กซิกซ์ด้วยกันก็เถอะ นั่นไม่ใช่ทฤษฎีตายตัวเลย

จากความผิดพลาดในครั้งก่อน ส่งผลให้เกมเหล่านี้จะต้องเน้นหนักอย่างยิ่ง จะทำแต้มหล่นระหว่างทางบ่อยๆไม่ได้อีกแล้ว

แม้เส้นทางยังมาไม่ถึงครึ่ง แต่ซิตี้ต้องรัดกุมให้มากที่สุด เพราะอาร์เซน่อลพร้อมท้าทายแชมป์พรีเมียร์ลีกเต็มตัว แมนฯยูไนเต็ดก็กำลังกระเตื้องในทิศทางที่ดี ส่วนลิเวอร์พูลก็มาแบบไม่รีบร้อน แต่ดูมั่นคงมากกว่าเดิม

ตลาดมกราคมอาจเป็นส่วนหนึ่งสำหรับการแก้ปัญหา อย่างไรก็ตามหากไม่จำเป็นจริง เป๊ป จะไม่ค่อยใช้บริการเท่าไรนัก เพราะรู้ดีว่ามีความเสี่ยงสูง ราคานักเตะก็ถูกโก่งอย่างแพง

แต่ซิตี้ยังได้เปรียบหลายทีมตรงที่ขุมกำลังเชิงลึกดีกว่าใคร หากอยู่กันครบครันให้เลือกสรรใช้สอย จะเห็นความแตกต่างตรงนี้ได้อย่างชัดเจน ตัวจริงกับสำรองแทบไม่ห่างกัน

รวมทั้งประสบการณ์ลุ้นแชมป์ ในช่วงไคลแม็กซ์แข้งซิตี้มักจะรับมือได้ดีมาก ผ่านเหตุการณ์มาบ่อยแล้ว ความกดดันอาจไม่ใช่อุปสรรคหลักใหญ่ให้ต้องน่าห่วงสักเท่าไร

น่าหวั่นใจก็เรื่องโปรแกรมชุกและหนักอย่างที่บอกเอาไว้ โดยเฉพาะเกมลีกต้องเก็บได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ต้องดวลกับทั้งเชลซี , แมนฯยูไนเต็ด , สเปอร์สและอาร์เซน่อลในช่วงเวลาใกล้กัน

แฟนบอลหลายทีมบอกว่า ไม่น่ากังวลเท่าไรหรอก ซิตี้โชว์ให้เห็นมานักต่อนัก ยากที่จะโค่นพวกเขาลงได้

ไปห่วงทีมตัวเองเถอะ ต้องมาเจอกับซิตี้ ยิ่งในยามที่ต้องการแต้มด้วยแล้ว รัศมีความน่ากลัวอาจแผ่กระจายมากขึ้นอีก

ทุกคนมีสิทธิ์มองอย่างไรก็ได้ บนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรหรอก

อีกไม่นาน เป๊ป จะตอบคำถามเองว่า ชะตาของเรือใบสีฟ้า หลังผ่านซีรี่ย์โหดแล้วจะเป็นอย่างไร

——————-

Cheerball

รูปภาพ

แบ่งปัน