ลู่ที่ต้องเลือกก่อนเอเชียนคัพ

18

ลู่ที่ต้องเลือกก่อนเอเชียนคัพ: อุ่นเครื่องเพื่อแรงกิ้งหรือจัดของจริงเพื่อคุณภาพ ?
#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

เมื่อวานได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับโควต้าฟุตบอลโลกที่อเมริกา, เม็กซิโก และแคนาดาจะร่วมกันเป็นเจ้าภาพในปี 2026 โดยทวีปเอเชียได้ตั๋วอัตโนมัติทั้งหมด 8 ใบพ่วงอีกครึ่งใบเอาไว้ไปลุ้นในรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีป ซึ่งทางเอเอฟซีไม่ได้เพียงแต่แค่ประกาศ “ระบบคัดเลือกโฉมใหม่” แต่ยังพ่วงด้วยการเปิดโพยตารางเวลาในรอบต่างๆแนบท้ายมาด้วย ซึ่งนั่นก็คือตารางเวลาเตรียมทีมของแต่ละชาติโดยในรอบแรกจะแข่งกันแบบเหย้า-เยือนในวันที่ 12 และ 17 ตุลาคม 2566

ความแตกต่างของระบบคัดเลือกแบบใหม่คือในรอบแรกจะเอาทีมที่มีฟีฟ่าแรงกิ้งตั้งแต่อันดับที่ 26 ของทวีปเป็นต้นไปมาเตะแบบเหย้า-เยือนกันก่อน(จากของเดิมที่เอาอันดับที่ 35 เป็นต้นไปมาเตะเหย้า-เยือน และหากท่านผู้อ่านต้องการทราบรายละเอียดระบบการคัดเลือกแบบใหม่อย่างละเอียด ท่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้ในโพสล่างๆนะครับ)

“เอาแล้วไง”

แม้ในตอนนี้เราจะยังไม่รู้ว่าเอเอฟซีจะประกาศวันจับฉลากรอบแรกกันวันไหนและถึงตอนนั้นอันดับฟีฟ่าของไทยจะอยู่ที่เท่าไหร่ แต่ลึกๆด้วยสิ่งที่โชว์อยู่บนหน้าฟีฟ่าแรงกิ้งตอนนี้ ด้วยคะแนนที่เรามีที่ 1170.69 แต้ม รั้งอันดับที่ 21 ของทวีป โดยมีคะแนนทิ้งห่างอันดับ 26 อย่างมาเลย์ตั้ง 113 คะแนน มองแบบผิวเผินก็น่าจะ “ผิวปาก” อย่างใจเย็นได้อยู่ เพราะมันก็มีระยะห่างค่อนข้างมาก แถมยังมีกันชนคั่นกลางตั้งสี่ทีม

ข้อดีที่ผมจะพูดถึงเรื่องกันชนสี่ทีมคือในรายการที่มีผลโดยตรงกับฟีฟ่าแรงกิ้งที่ใกล้ตัวที่สุดน่าจะเป็นเอเชียน คัพ ที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่มีค่าสัมประสิทธิ์ตัวคูณคะแนนให้เก็บกันแบบเป็น “กระบุง” แถมยังเป็นรายการที่เตะก่อนจับติ้วบอลโลกรอบคัดเลือกรอบแรกอีกด้วย ซึ่งอันดับ 22, 23 และ 24 อย่างเกาหลีเหนือ,ฟิลิปปินส์ และ เติร์กเมนิสถานจ ะไม่ได้ร่วมสังคยกรรมแน่ๆ ดังนั้นคะแนนของทีมเหล่านี้ก็นิ่งๆ ไม่ได้สวิงไปมากจากที่เราเห็นซึ่งจะส่งผลดีต่อไทย

แต่ทว่าบรรดาทีมที่รายล้อมไทยอยู่ไม่ว่าจะเป็นอินเดีย, ทาจิกิสถาน, ฮ่องกง และมาเลย์ ทีมที่ว่ามานี้หากพวกเขาเกิดทำผลงานดีในชิงแชมป์ทวีป แล้วพี่ไทยเกิดดวงแตกตกรอบแรกขึ้นมา มันก็จะเป็นหนังคนละม้วนและกลายเป็นว่าไทยก็มีโอกาสที่ต้องไปเริ่มต้นภารกิจคัดบอลโลกตั้งแต่ “ไก่โห่” ตั้งแต่รอบแรก

คำถามจึงมีอยู่ว่าฟีฟ่า เดย์ ที่มีหลังจากนี้(ก่อนถึงเอเชียนคัพปีหน้า) เราควรเลือกเวย์ไหนดี? ระหว่างเน้นเชิญทีมเบาๆ ซอฟต์ๆหน่อย(แต่ไม่ถึงกับเบาหวิว)มาเตะเพื่อเน้นโกยแต้ม กับจัดของแข็งแบบจัดเต็ม คัดเน้นๆเอาแต่ทีมที่มีอันดับเหนือกว่ามาเตะเพื่อจูนคุณภาพทีม เวย์ไหนถึงจะเหมาะ?

ตัดเรื่องปัจจัยอื่นๆไปก่อนนะ โฟกัสกันแค่เรื่องเวย์ในการเลือกทีมมาอุ่นเครื่องก่อนเอเชี่ยนคัพเท่านั้น มองในมุมของแฟนบอลที่สนับสนุนเวย์ “บิ้วแรงกิ้ง” ก็คงจะซัพพอร์ตด้วยถ้อยพูดในทำนองที่ว่าหากคุณเอาแต่อยู่โถสุดท้ายในรายการสำคัญๆ (อย่างคัดบอลโลก)จับติ้วกี่ครั้งก็เจอแต่งานกระดูก-งานหินรออยู่ข้างหน้า เสี่ยงกลับบ้านตั้งแต่ไก่โห่ ถ้ามันจะมีวิธีที่จะทำให้เราไม่ต้องตกอยู่ในสถานการ์ณแบบนี้ การเก็บแต้มฟีฟ่าตุนไว้ก่อนกันเหนียว มันไม่ดีตรงไหนล่ะ?

“ถูก! แต่ไม่ทั้งหมด”

เพราะเราต้องตอบชุดคำถามพวกนี้ให้ได้ก่อน เช่นการอุ่นเครื่องกับทีมที่แรงกิ้งต่ำกว่า(ที่ว่า) เอาตรงไหนมามั่นใจว่าจะชนะ? หากชนะจริงบางทีคะแนนที่ได้จากทีมที่แรงกิ้งต่ำกว่าอาจกระจิดริดจนช่วยเราได้ไม่มาก และแน่ใจหรือว่านี่คือสิ่งที่ใช่เพื่อการเตรียมทีมสำหรับเอเชียน คัพ? (นี่คงจะเป็นชุดคำถามที่ฝ่ายค้านจะยกขึ้นมาโต้)

ในมุมของผมกับโควตาตั๋วแปดครึ่งใบไปบอลโลกปี 2026 ผมมองว่าถ้าเราสามารถอุ่นเครื่องกับทีมที่เหนือกว่าบ่อยๆ เน้นๆแค่ทีมในเอเชียนี่แหละ (อย่าพึ่งไปคว้านอกทวีปมาเยอะ เพราะรายการสำคัญๆที่จะต้องวัดกันส่วนใหญ่มันก็คือการเจอกับทีมในทวีปเดียวกันทั้งนั้น) น่าจะเป็นเวย์ที่ “ใช่” กว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเน้นกับทีมจากย่านตะวันออกกลางให้มาก เพราะโอกาสที่ไทยจะต้องเจอทีมอาหรับในเอเชียน คัพ นั้นมีสูง

การจะเบียดเบอร์ท็อปๆทวีปอย่างญี่ปุ่น, อิหร่าน, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, ซาอุฯ, กาตาร์ หรือแม้แต่อุซเบฯ ถือว่าเป็นงานที่ยากถึงยากมาก แต่กับทีมที่ไล่เรียงลงมาหน่อยอย่าง อิรัก, ยูเออี, จีน, จอร์แดน และ โอมาน ทีมเหล่านี้พอมีหวัง อยู่ที่การจัดการ, การเตรียมทีม และองค์ประกอบเรื่องตัวผู้เล่นในตอนนั้น

6 แมตช์ฟีฟ่า เดย์ ที่แต่ละทีมมีอยู่เท่าๆกันก่อนเอเชียนคัพนับว่าน้อยเอามากๆ เราต้องทำการบ้านให้ดี เพราะไม่ใช่แค่เพื่อเอเชียน คัพ ที่รออยู่เท่านั้น แต่เพื่อภารกิจชิงตั๋วบอลโลก 2026 ที่ใครต่อใครต่างก็จ้องมองกันตาเป็นมันเช่นกัน

akinson149
……………………………………………………………
“akinson149” พงศ์รัตน์ วินัยวัฒนวงศ์
Moderator เพจ thailandsusu (Section: บทความ-แปลข่าวบอลไทย) และคอลัมนิสต์ฟุตบอลไทย

#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand​​ #WorldCupQualifiers #WorldCup2026

แบ่งปัน