ความผิดพลาดของสองแนวรับลิเวอร์พูล กลายเป็นจุดเปลี่ยนทำให้อาร์เซนอลคว้าชัย
พรีเมียร์ลีก 2023/24 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 23 เป็นการพบกันระหว่าง อาร์เซนอล เปิดรังเหย้า เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำเกมรุกร่วมกับ บูกาโย ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี
ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โกดี้ คักโป, ดิโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ
เริ่มเกมได้ 14 นาที เป็นฝั่งของอาร์เซนอลมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ หลุดไปยิงด้วขวาติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไปเข้าทาง บูกาโย ซาก้า ตามซ้ำดาบสองด้วยซ้ายไม่เหลือ ส่งให้ปืนใหญ่ออกนำ 1-0
ทว่าช่วงทดเวลานาทีที่ 45+3 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ ฉวยโอกาสจากการที่ วิลเลียม ซาลิบา และ ดาบิด รายา สื่อสารกันไม่ดี ด้วยการล้มตัวจิ้มบอลไปโดนมือของ กาเบรียล มากัลเญส ปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลนี้
ครึ่งหลังอาร์เซนอลมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ สื่อสารกับ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ไม่ดี จนกลายเป็นแจกโชคให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี รับส้มหล่นตวัดยิงด้วยขวาโล่ง ๆ ไม่เหลือ ช่วยให้เจ้าบ้านนำอีกรอบ 2-1
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 88 ลิเวอร์พูลมาเหลือสิบคน จากจังหวะที่ อิบราฮิมา โกนาเต้ เจตนาดักฟาวล์ใส่ ไค ฮาแวร์ตซ์ จนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+2 อาร์เซนอลมาบวกลูกสามเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ เลอันโดร ทรอสซาร์ กระชากบอลทางกราบซ้ายหลุดเข้าเขตโทษไปยิงด้วยซ้ายแฉลบปลายเท้า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แล้วบอลไหลลอดขา อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย ส่งให้เดอะ กันเนอร์สนำ 3-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นอาร์เซนอลชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน รั้งอันดับ 2 ส่วนลิเวอร์พูลยังนำจ่าฝูง ด้วยการมี 51 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
อาร์เซนอล (4-2-3-1) : ดาบิด รายา; เบน ไวท์, วิลเลียม ซาลิบา, กาเบรียล มากัลเญส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (ยาคุบ คิวิออร์ น.46); จอร์จินโญ, ดีแคลน ไรซ์: บูกาโย ซาก้า (รีสส์ เนลสัน น.79), มาร์ติน โอเดการ์ด, กาเบรียล มาร์ติเนลลี (เลอันโดร ทรอสซาร์ น.74); ไค ฮาแวร์ตซ์
ผู้เล่นสำรองไม่ได้ลง : อารอน แรมส์เดล, เอมิล สมิธ โรว์, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, เซดริค โซอาเรส, โมฮาเหม็ด เอลเนนี, รูเอล วอลเตอร์ส
ใบเหลือง – เบน ไวท์ น.31, กาเบรียล มากัลเญส น.57, ยาคุบ คิวิออร์ น.69
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.58), อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โจ เกเมซ (ติอาโก้ อัลคันทารา น.85); ไรอัน กราเฟนแบร์ก (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.58), อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์; โกดี้ คักโป (ดาร์วิน นูนเญซ น.58), ดิโอโก้ โชต้า, หลุยส์ ดิอาซ
ผู้เล่นสำรองไม่ได้ลง : อาเดรียน, บ็อบบี้ คลาร์ก, เจมส์ แม็คคอนเนลล์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, จาเรลล์ ควอนซาห์
ใบเหลือง – โจ โกเมซ น.25, อิบราฮิมา โกนาเต้ น.55, น.88
ใบแดง – อิบราฮิมา โกนาเต้ น.88 (สองใบเหลือง)
ขอบคุณที่มา goal.com
——-
