ใครคือสุดยอดดีลของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022-23
21 เนโต้ (บอร์นมัธ, ฟรี)
บอร์นมัธ ลองเสี่ยงดึงตัวผู้รักษาประตูที่เป็นตัวสำรองมาแทบตลอดอาชีพมาร่วมทีม แต่นายด่านชาวแซมบ้ากลับกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมในฤดูกาลนี้
เนโต้ เริ่มฤดูกาลด้วยการเป็นสำรอง ก่อนที่จะกลายเป็นมือหนึ่งของทีมในเวลาต่อมา
20 เบน มี (เบรนท์ฟอร์ด, ฟรี)
เบน มี มีส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้ เบรนท์ฟอร์ด จบในอันดับท็อป 10 ในพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร
ดาวเตะวัย 33 ปี แข็งแกร่งมากในการเล่นลูกกลางอากาศ และช่วยให้ทีมเก็บได้ถึง 10 คลีนชีต นอกจากนี้ยังทำไปถึง 3 ประตู กับ 2 แอสซิสต์
19 วิลฟรีด ญอนโต้ (ลีดส์ ยูไนเต็ด, 4 ล้านปอนด์)
ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าตัว วิลฟรีด ญอนโต้ มาจาก เอฟซี ซูริค ด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ โดยช่วงแรกเขาต้องใช้เวลาปรับตัว แต่หลังจากนั้นก็ค่อยเริ่มแสดงศักยภาพออกมาให้เห็น
เขาทำไปทั้งสิ้น 4 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ สำหรับฤดูกาลแรกในพรีเมียร์ลีก ซึ่งการย้ายทีมครั้งต่อไปจะสร้างกำไรมหาศาลให้ทีมยูงทองแน่นอน
18 คริสเตียน อิริคเซน (แมนฯยูไนเต็ด, ฟรี)
อิริคเซน เข้ามาทำให้แดนกลางของ แมนฯยูไนเต็ด ยกระดับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อได้ประสานงานกับ คาเซมิโร และ บรูโน แฟร์นันด์ส
ปีศาจแดง เซ็นสัญญากับดาวเตะชาวเดนมาร์กแบบไร้ค่าตัว และกลายเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมในฤดูกาลนี้
17 โรเมโอ ลาเวีย (เซาแธมป์ตัน, 10.5 ล้านปอนด์)
ลาเวีย เป็นหนึ่งในนักเตะของ เซาแธมป์ตัน ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ แม้ว่าทีมจะต้องตกชั้น
ค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ อาจดูค่อนข้างสูงกับนักเตะวัย 19 ปี แต่เชื่อได้เลยว่าหลังจบฤดูกาลนี้ ทีมนักบุญจะได้กำไรจากการปล่อยตัวเขาอย่างแน่นอน
16 ดไวท์ แม็คนีล (เอฟเวอร์ตัน, 20 ล้านปอนด์)
ปีกซ้ายชาวอังกฤษใช้เวลาในการปรับตัวเล็กน้อยก่อนจะกลายมาเป็นกำลังสำคัญของ เอฟเวอร์ตัน
โดยเฉพาะหลังการเข้ามาคุมทีมของ ฌอน ไดซ์ ฟอร์มของ แม็คนีล ก็โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเขาทำไปถึง 5 ประตู นับตั้งแต่เข้าสู่เดือน มีนาคม
15 ไตโว อโวนิยี (น็ฮตติ้งแฮม ฟอเรสต์, 17.5 ล้านปอนด์)
การมีกองหน้าที่ไว้ใจได้คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับทีมที่ต้องการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีก ซึ่ง ฟอเรสต์ โชคดีที่มีทั้ง เบรนแดน จอห์นสัน และ อโวนิยี
ดาวเตะชาวไนจิเรียทำไป 9 ประตูในพรีเมียร์ลีก และมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ทีมเจ้าป่ารอดพ้นการตกชั้นฤดูกาลนี้
14 นิค โป๊ป (นิวคาสเซิล, 10 ล้านปอนด์)
เราสามารถพูดได้เลยว่าหากไม่มี นิค โป๊ป เฝ้าเสา นิวคาสเซิล อาจไม่ได้อยู่ในกลุ่มท็อปโฟร์ฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน
นายด่านทีมชาติอังกฤษมีส่วนสำคัญช่วยให้สาลิกาดงเป็นหนึ่งในทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก และยังเซฟจุดโทษได้ถึง 3 จาก 5 ครั้ง
13 เจา ปาลินญา (ฟูแลม, 20 ล้านปอนด์)
ปาลินญา คือนักเตะที่เข้าปะทะมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และช่วยให้แดนกลางของ ฟูแลม สู้กับบรรดาบิ๊กทีมได้อย่างไม่เป็นรอง
การแย่งบอลและการจ่ายบอลอันเหนือชั้นของเขามีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมเจ้าสัวน้อยมีผลงานที่ยอดเยี่ยมฤดูกาลนี้
12 วิลเลียน (ฟูแลม, ฟรี)
ตอนที่ วิลเลียน ยกเลิกสัญญากับ อาร์เซนอล ดูเหมือนว่าเส้นทางการค้าแข้งในยุโรปของเขาคงสิ้นสุดลงแล้ว
อย่างไรก็ตาม ฟูแลม ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว ซึ่งดาวเตะชาวบราซิลพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายังเล่นในพรีเมียร์ลีกได้อย่างไม่มีปัญหา
11 ฮูเลียน อัลวาเรซ (แมนฯซิตี้, 14 ล้านปอนด์)
แมวมองของ แมนฯซิตี้ ในอเมริกาใต้ได้รับการยอมรับว่าสายตาเฉียบแหลม ซึ่ง อัลวาเรซ เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ในเรื่องนี้
ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินา อาจเจอปัญหาในการแย่งตำแหน่งกับ เออร์ลิง ฮาลันด์ แต่เจ้าตัวยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเมื่อได้รับโอกาส และคุ้มค่าเม็ดเงิน 14 ล้านปอนด์
10 อเล็กซานเดอร์ อิซัค (นิวคาสเซิล, 63 ล้านปอนด์)
อิซัค ย้ายมาร่วมทีม นิวคาสเซิล ด้วยค่าตัวมหาศาล โดยต้องเจอปัญหาอย่างหนักในช่วงเริ่มต้น ทั้งจากการปรับตัวและปัญหาอาการบาดเจ็บ
อย่างไรก็ตาม หลังกลับมาฟิตสมบูรณ์ดาวเตะชาวสวีเดนก็แสดงฝีเท้าที่เหนือชั้นออกมาให้เห็น และเป็นฝันร้ายของแนวรับคู่แข่งอย่างแท้จริง
9 คาเซมิโร (แมนฯยูไนเต็ด, 60 ล้านปอนด์)
คาเซมิโร ย้ายมาอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด ในช่วงโค้งสุดท้ายของตลาดนักเตะเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชนิดที่เซอร์ไพรส์แฟนบอลปีศาจแดง
แม้ตอนแรกจะถูกมองว่าอายุมากเกินไปสำหรับการมาปรับตัวในพรีเมียร์ลีก แต่เจ้าตัวแสดงให้เห็นแล้วว่าคลาสบอลของเขาดีพอจะเล่นในลีกอังกฤษได้อย่างไม่มีปัญหา และเข้ามายกระดับแดนกลางของปีศาจแดงขึ้นอย่างชัดเจน
8 มานูเอล อคานจี (แมนฯซิตี้, 15 ล้านปอนด์)
อคานจี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่ชาญฉลาดของ แมนฯซิตี้ และ เป๊ป กวาร์ดิโอลา
แนวรับชาวสวิสคือกองหลังในอุดมคติของกุนซือชาวสเปน ที่มีทั้งเทคนิคที่ยอดเยี่ยม, แข็งแกร่ง และเล่นตามแท็คติกได้อย่างไม่บกพร่อง
7 เปร์วิส เอสตูปินญาน (ไบรท์ตัน, 15 ล้านปอนด์)
เอสตูปินญาน ย้ายจาก บียาร์เรอัล มาอยู่กับ ไบรท์ตัน และมีฤดูกาลแรกที่น่าทึ่งในพรีเมียร์ลีก
เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะหลังจากจบฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งเขาทำไปถึง 7 แอสซิสต์ นับตั้งแต่เข้าสู่เดือนมกราคม รวมถึงเป็นกำลังหลักที่ขาดไม่ได้ของทีม
6 อันเดรส เปร์ไรรา (ฟูแลม, 10 ล้านปอนด์)
จากแข้งส่วนเกินของ แมนฯยูไนเต็ด กลายเป็นกำลังสำคัญของ ฟูแลม ในฤดูกาลนี้
เปร์ไรรา ทำไป 4 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ ให้ทีมเจ้าสัวน้อยฤดูกาลนี้ และเป็นส่วนสำคัญในแนวรุก โดยเฉพาะเมื่อได้ประสานกับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช
5 ลิซานโดร มาร์ติเนซ (แมนฯยูไนเต็ด, 56 ล้านปอนด์)
มีคำถามเกิดขึ้นมากมายตอนที่ แมนฯยูไนเต็ด เซ็นสัญญากับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ว่ากองหลังที่ส่วนสูงไม่มากแบบเขาจะเล่นในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่
แต่แนวรับชาวอาร์เจนตินาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าเขาเล่นในลีกอังกฤษได้อย่างไม่มีปัญหา แถมทำได้ยอดเยี่ยมเสียด้วย และกลายเป็นกำลังสำคัญของปีศาจแดงอย่างแท้จริง
4 โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (อาร์เซนอล, 32 ล้านปอนด์)
ซินเชนโก้ เข้ามาทำให้ฝั่งซ้ายของ อาร์เซนอล มีชีวิตชีวาและดูอันตรายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่เพียงแค่ฝีเท้าอันยอดเยี่ยมเท่านั้น เขายังแสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำที่พร้อมปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมอีกด้วย
3 สเวน บอทแมน (นิวคาสเซิล, 35 ล้านปอนด์)
บอทแมน เข้ามายกระดับเกมรับของ นิวคาสเซิล ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และมีส่วนสำคัญทำให้ทีมของ เอ็ดดี ฮาว ผ่านเข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
การประสานงานระหว่างเขากับ ฟาเบียน ชาร์ ทำให้ สาลิกาดง เป็นทีมที่มีสถิติเกมรับดีที่สุดมาเกือบทั้งฤดูกาล ก่อนจะมาโดน แมนฯซิตี้ แซงไปในช่วงเดือนพฤษภาคม
2 กาเบรียล เชซุส (อาร์เซนอล, 45 ล้านปอนด์)
แม้จะมีสถิติที่ดีตอนอยู่ แมนฯซิตี้ แต่กองหน้าชาวบราซิลยังคงไม่ได้เป็นตัวหลักของทีม และตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้
แม้ว่าจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานจนต้องพักยาวกว่า 3 เดือน แต่เขายังทำไปถึง 10 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ และช่วยให้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีลุ้นแชมป์ลีกจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย
1 เออร์ลิง ฮาลันด์ (แมนฯซิตี้, 51 ล้านปอนด์)
ฮาลันด์ คือการเซ็นสัญญายอดเยี่ยมของฤดูกาลนี้อย่างไร้คู่แข่ง เขาไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวแม้แต่น้อย โดยทำไปแล้วถึง 52 ประตูรวมทุกรายการ
ค่าตัว 51 ล้านปอนด์ของเขา กลายเป็นถูกเหมือนได้เปล่าหากเทียบกับผลงานของเขา และเชื่อได้เลยว่าเขาจะเดินหน้าทำลายสถิติอีกหลายอย่างในอนาคต
ขอบคุณที่มา goal.com
——-
