เรื่องผู้นำในแต่ละแดนของทีมฟุตบอลเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะผู้นำจะตัดสินใจได้ดี นิ่งในสถานการณ์กดดัน และสามารถสั่งการเพื่อนๆได้
นี่คือสิ่งที่มีส่วนทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีผลงานที่ดีขึ้นมาในฤดูกาลนี้
สิ่งที่แตกต่างไปจากฤดูกาลก่อนอย่างเห็นได้ชัดคือเกมรับ ไม่ใช่เกมรุก
แนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ค่อยมีช็อตพลาดแบบงั่งๆ หาเรื่องลำบากให้ตัวเอง เสียง่ายหมูๆ เหมือนเดิม
แน่นอนว่าต้องชื่นชมการเข้ามาของ ลิซานโดร มาร์ตีเนซ ที่เข้ามาจับคู่กับ ราฟาแอล วาราน ได้ลงตัว
สองคนนี้มีความเป็นผู้นำสูง กระตุ้นเพื่อน แสดงให้เห็นว่าเอา และสมาธิเขม็งเกลียวตลอด 90 นาที
วาราน เราเห็นฝีเท้ามานานแล้ว เพียงแต่ฤดูกาลก่อนเจ็บออดๆ แอดๆ จนแทบไม่ได้เล่นต่อเนื่อง
แต่ ลิซานโดร หลังจากเข้ามาก็โดนค่อดขอดความสูง และเปิดตัวช่วงแรกไม่ดีเพราะยังปรับตัวก่อน 2-3 นัด
ทว่าหลังจากนั้น “เดอะ บุทเชอร์” กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ฟอร์มดีไม่มีตก ภาพรวมถือว่ามีมาตรฐานสูงมาก ในสถานการณ์กดดันแทบไม่มีเลิกลั่ก ให้เห็น
เมื่อคืนวันเสาร์ ลิช่า ก็แสดงให้เห็นความเป็นผู้นำอีกครั้ง เขาเข้าสกัดจังหวะสำคัญ พุ่งเข้าปะทะในจังหวะที่เพื่อนโงนเงนเพราะโดนกดใส่หลังเหลือ 10 คน และได้รับโหวตเป็นแมน ออฟ เดอะ แม็ทช์
ผลงานผ่านบอล 92%, สัมผัสบอล 77 ครั้ง, เอาบอลคืนมา 7 ครั้ง, เคลียร์บอล 5 ครั้ง, ชนะลูกกลางอากาศ 3 ครั้ง, เข้าแท็คเกิ้ลชนะ 2 จาก 2 ครั้ง
แนวรับ ลิซานโดร สามารถเป็นที่พึ่งพาได้ยามโดนกดดัน หรือจังหวะหวาดเสียว
แนวรุก บรูโน่ แม้จะขี้โวยวาย แต่ก็เป็นผู้นำแดนบนมาตลอด คอยสั่งการ คอยชี้บอกเพื่อนว่าจังหวะไหนควรเข้า ควรเพรส ผลงานมันชัดมานานแล้ว
แดนกลางล่ะ? มันชัดเจนว่าพี่ใหญ่ และผู้นำกลางสนามคือ กาเซมิโร่
ยามที่ “พี่เษม” เล่นกับตัวเก๋า ที่ก็นิ่งและมีความเป็นผู้นำสูงอย่าง คริสเตียน เอริคเซ่น ทุกอย่างมันลงตัวสุดๆ
เรื่องความเป็นผู้นำนี่สำคัญแค่ไหน ก็สำคัญขนาดที่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ออกมาทวีตถึงแนวรับของลิเวอร์พูลหลังพ่ายวูล์ฟส์ 0-3 ว่าแบบนี้
“มันไม่ยากนักหรอกที่จะเล่นเซนเตอร์แบ็กโดยข้างๆ มีผู้นำของแผงหลังอยู่ ให้ตัดสินเซนเตอร์เวลาพวกเขาต้องเป็นผู้นำเสียเอง”
โจ โกเมซ กับ โฌแอล มาติป ที่เคยโดนยกย่อง เล่นด้วยกัน โดยปราศจากพี่ใหญ่อย่าง ฟาน ไดค์ ผลคือความบรรลัยอย่างที่เห็น
แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี เอริคเซ่นไปคนนึงแต่ กาเซมิโร่ ยังแบกเพื่อนๆ ได้สบายๆ ทว่าจากการโดนไล่ออกในเกมกับ พาเลซ นี่มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
มิดฟิลด์ตัวกลางกลายเป็นปัญหาน่าปวดหัวของ เทน ฮาก ดอนนี่ เจ็บยาว, เอริคเซ่นเจ็บยาว, แม็คโทมิเนย์ ก็มาเจ็บช่วงนี้, กาเซมิโร่ โดนแบน
เท่ากับว่าจะเหลือ เฟร็ด และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่ถือเป็นแข้งซีเนียร์ ที่เหลือให้ใช้งาน
ซาบิตเซอร์ ลงมาเล่นไม่กี่นาที แต่พอจะเห็นว่าเขา “เอา” เหมือนกัน เข้าทุกลูก ไม่มีแหยง มีช็อตผ่านบอลไวๆ ให้เห็น
แม้ บรูโน่ จะพอถอยลงต่ำได้ หรือการจะดันเอา ลินเดอเลิฟ มาเล่นกลางรับได้ แต่เชื่อว่า เทน ฮาก ยังไม่เสี่ยงวิธีแบบนี้แน่
การไม่มี กาเซมิโร่ แฟนผีก็อาจได้เห็น มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จับคู่กับ เฟร็ด ในแดนกลางไปก่อน
ก็ต้องภาวนาว่าให้ เฟร็ด ยกระดับตัวเองขึ้นมา เล่นดีให้ได้คงเส้นคงวา ขณะที่ ซาบิตเซอร์ เองก็เคยนำทีม เคยเป็นกัปตันของ ไลป์ซิก และทีมชาติในบางนัดมาแล้ว นาทีนี้แฟนผีต้องคาดหวังแล้ว เพราะไม่มีใครอื่นอีก
เฟร็ด-ซาบิตเซอร์ คนใดคนหนึ่งต้องรับบทเป็นพี่ใหญ่ในแดนกลางแมนฯ ยูไนเต็ด ให้ได้ ในยามที่สถานการณ์มันไม่เป็นใจแบบนี้
Cheerball
