โมร็อกโกจัดรถบัสดับโปรตุเกส 1-0 ลิ่วตัดเชือกครั้งแรก

373

โมร็อกโกโค่นโปรตุเกส สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติจากแอฟริกาทีมแรกที่ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก







ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 8 ทีม ระหว่าง โมร็อกโก ลงเล่นที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม ในเมืองอัล ธูมามา ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ โปรตุเกส

วาลิด เรกรากี กุนซือของโมร็อกโก เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น ฮากิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนไซรี และ โซฟียาน บูฟาล

ด้านโปรตุเกสของ แฟร์นานโด ซานโตส วางหมากมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน โดยใช้สามแนวรุกเป็น ใช้สามแนวรุกเป็น บรูโน แฟร์นันด์ส, กอนซาโล รามอส และ เชา เฟลิกซ์ ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ นั่งสำรองสองนัดติดต่อกัน

ครึ่งแรกดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 42 เป็นฝั่งของโมร็อกโกมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ยาเฮีย อัตติยัด-อัลลาห์ เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ ยุสเซฟ เอ็น-เนไซรี โฉบมาโหม่งตัดหน้า ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูของโปรตุเกสตุงตาข่าย ส่งให้ทีมจากแอฟริกาออกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังแม้ว่าโปรตุเกสจะส่งกองหน้าจอมเก๋าอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ลงมาเป็นตัวสำรอง รวมถึงฝั่งโมร็อกโกไปเหลือ 10 คน ในช่วงทดเวลานาทีที่ 90+3 เมื่อทาง วาลิด เชดดิรา โดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป แต่สุดท้ายก็ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้จบเกมเป็นโมร็อกโกชนะไป 1-0 สร้างประวัติศาสตร์เป็นชาติจากแอฟริกาทีมแรกที่ทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โมร็อกโก (4-3-3) : โบโน; อัชรอฟ ฮากีมี, โรแมง ซาอิสส์, จาวาด เอล ยามิก, ยาเฮีย อัตติยัด-อัลลาห์; อัซซาดีน อูนาฮี, โซฟยาน อัมราบัต, เซลิม อมัลลาห์; ฮากิม ซิเย็ค, ยุสเซฟ เอ็น-เนไซรี, โซฟียาน บูฟาล

สำรอง : อับเดอร์ราซัค ฮัมดัลลาห์, อนาสส์ ซารูรี, อับเดลฮามิด ซาบิรี, มูนิร มุฮัมเมดี, อิเลียส แชร์, ซากาเรีย อาบูคิลาล, อับเด เอซซัลซูลี, อัชรอฟ ดารี, วาลิด เชดดิรา, อะหมัด รีฎอ ตัคนาอูตี, บิลาล เอล คานนุส, บาเดอร์ เบนูน, ยะห์ยา จาบราน

โปรตุเกส (4-3-3) : ดิโอโก้ คอสต้า; ดิโอโก้ ดาโลต์, เปเป้, รูเบน ดิอาส, ราฟาแอล เกร์เรโร; โอตาวิโอ, รูเบน เนเวส, แบร์นาร์โด้ ซิลวา; บรูโน แฟร์นันด์ส, กอนซาโล รามอส, เชา เฟลิกซ์

สำรอง : รุย ปาทริซิโอ, เชา ปาลินโญ, คริสเตียโน โรนัลโด้, อังเดร ซิลวา, โชเซ ซา, วิลเลียม คาร์วัลโญ, ราฟาเอล เลเอา, วิตินญา, เชา มาริโอ, เชา คันเซโล, ริคาร์โด้ ออร์ต้า, มาเธอุส นูเนส, อันโตนิโอ ซิลวา

ขอบคุณที่มา goal.com

แบ่งปัน