อังกฤษ คือหนึ่งในแปดชาติที่เคยก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลก โดยมีเหล่ายอดนักเตะเคยลงสนามรับใช้ในนามทีมชาติ
เจฟฟ์ เฮิร์สต์ เคยทำแฮตทริกในนัดชิงฟุตบอลโลก 1966 ที่พบเยอรมนี ขณะที่ กอร์ดอน แบงค์ส ก็เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาล
หรือในช่วงยุคที่ผ่านมาอย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด และ เวย์น รูนีย์ ก็เป็นสุดยอดนักเตะของโลกเช่นกัน
และนี่คือทีมชุดที่ดีสุดตลอดกาลของอังกฤษ!
ผู้รักษาประตู : กอร์ดอน แบงค์ส
หนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดตลอดกาล ชุดแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1966
เขาคือนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FWA ในปี 1972 และนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ FIFA 6 สมัย
ทว่าอุบัติเหตุรถยนต์ในเดือนตุลาคมปี 1972 ทำให้เขาสูญเสียการมองเห็นที่ตาข้างขวา
ลงสนามเฝ้าเสาให้อังกฤษ 73 นัด ทำให้เขาเบียด ปีเตอร์ ชิลตัน และ เดวิด ซีแมน อยู่ในทีมชุดนี้
แบ็คขวา : แกรี เนวิลล์
นักเตะตำแหน่งแบ็คขวาที่ลงสนามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติอังกฤษ ลงสนามไป 85 นัด ลงเล่นในยูโร 3 สมัยและฟุตบอลโลก 2 สมัยด้วยกัน
ตำนานแมนฯ ยูฯ คือตัวเลือกหลักในยูโร 1996 และได้ลงเล่นทุกเกมจนถึงรอบรองชนะเลิศที่เขามาติดโทษแบน
ด้วยอาการบาดเจ็บทำให้เขาพลาดฟุตบอลโลก 2002 อย่างน่าเสียดาย แต่ทว่ายังยอดเยี่ยมพอที่จะติดทีมชุดนี้
เซ็นเตอร์แบ็ค : บ็อบบี้ มัวร์
กัปตันทีมชาติอังกฤษชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1966 เขาคือหนึ่งในกองหลังที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์
มัวร์ ลงสนาม 108 นัดให้กับทีมชาติอังกฤษ เป็นสถิติสูงสุดตอนเขารีไทร์ในปี 1973 ก่อนถูกทำลายโดย ปีเตอร์ ชิลตัน และ เดวิด เบ็คแฮม
เขากลายเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษในวัยเพียง 23 ปีในปี 1964 และได้รับเกียรติมีรูปปั้นหน้าสนามเวมบลีย์
เซ็นเตอร์แบ็ค : ริโอ เฟอร์ดินานด์
หนึ่งในกองหลังที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของอังกฤษ ประเดิมสนามในวัย 19 ปี 8 วัน ในเดือนพฤศจิกายน 1997 กลายเป็นกองหลังอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามให้อังกฤษ ก่อนโดนทำลายโดย ไมกาห์ ริชาร์ดส ในปี 2006
เฟอร์ดินานด์ ลงเล่นฟุตบอลโลก 2002 และ 2006 ทว่าไม่เคยลงเล่นในฟุตบอลยูโรเลย
เขาประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี2013 เพื่อโฟกัสช่วงสุดท้ายกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยเขาเบียด จอห์น เทอร์รี และ โซล แคมป์เบลล์ อยู่ในทีมชุดนี้
แบ็คซ้าย : แอชลีย์ โคล
หนึ่งในแบ็คซ้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของเขา โคล รับใช้ทีมชาติอังกฤษยาวนาน 13 ปี ในช่วง 2001-2014
เขาลงเล่นในฟุตบอลโลก 3 สมัยและยูโร 2 สมัย และได้รับการโหวตเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของอังกฤษในปี 2010
โคล ลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษมากถึง 107 นัด และรีไทร์หลังจากไม่ติดทีมชาติไปฟุตบอลโลกในปี 2014
ปีกขวา : เดวิด เบ็คแฮม
หนึ่งในคนที่พลิกโฉมฟุตบอลสมัยใหม่ เบ็คแฮม คือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในยุคของเขา
ด้วยความสามารถในการผ่านบอล, ครอสบอล และฟรีคิกสุดฉมัง ทำให้ตำนานแมนฯ ยูไนเต็ด ประจำการทางฝั่งขวาของทีมชาติอังกฤษมาอย่างยาวนาน
ผลงานยิ่งใหญ่ที่สุดของ เบ็คแฮม คือการยิงฟรีคิกท้ายเกมใส่ กรีซ ช่วยทีมผ่านเข้ารอบไปเล่นฟุตบอลโลก 2022
กองกลาง : พอล แกสคอยน์
หนึ่งในนักเตะที่พรสวรรค์สูงที่สุดของอังกฤษ แกสคอยน์ ลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษไป 57 นัดและทำ 10 ประตู
หนึ่งในประตูในตำนานคือลูกยิงวอลเลย์สุดสวยใส่สก็อตแลนด์ในยูโร 1996
กองกลาง : สตีเวน เจอร์ราร์ด
นี่คือหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องและดีที่สุดของอังกฤษ ที่เราไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานาน
หลังประเดิมสนามในเกมพบ ยูเครน ปี 2000 เขาลงสนามทั้งหมด 114 นัดให้อังกฤษ และทำ 21 ประตูตลอดปี 2000-2014
เขาคือกัปตันทีมในฟุตบอลโลก 2010 ทว่าทีมอกหักตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วยนำมือ เยอรมนี ในประตูปัญหาที่ยังมีเป็นที่พูดถึงจนทุกวันนี้
เขาเบียด แฟรงค์ แลมพาร์ด มาอยู่ในตำแหน่งนี้ มาอยู่ในทีมคู่กับ พอล แกสคอยน์
ปีกซ้าย : สแตนลีย์ แมทธิวส์
หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของอังกฤษ นักเตะเพียงคนเดียวที่มียศอัศวินตั้งแต่ตอนที่ยังเล่นฟุตบอลอยู่
เจ้าของฉายา “พ่อมดแห่งการลากเลื้อย” เขาลงเล่นในฟุตบอลระดับสูงยาวนานจนอายุ 50 ปี
เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ปี 1956 รับใข้ทีมชาติอังกฤษ 54 นัด ทำ 11 ประตูในช่วงปี 1934-1957 พร้อมลงสนามในฟุตบอลโลก 2 สมัย
กองหน้า : บ็อบบี้ ชาร์ลตัน
หนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขาคือนักเตะคนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1966
ตำนานแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือแข้งพรสวรรค์ในเกมรุกอย่างแท้จริงทั้งการผ่านบอล, เซนสการทำประตู และลูกยิงอันยอดเยี่ยม
ชาร์ลตัน ประเดิมสนามให้อังกฤษในปี 1958 เพียง 2 เดือนหลังรอดจากโศกนาฏกรรมมิวนิค
เขาลงสนามให้อังกฤษ 106 นัด และทำ 49 ประตู เขาคือดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของอังกฤษ จนกระทั่ง เวย์น รูนีย์ มาทำลายสถิติในเดือนกันยายน 2015
กองหน้า : เวย์น รูนีย์
หนึ่งในสุดยอดกองหน้าตลอดกาลของอังกฤษ เขาคือดาวซัลโวสูงสุดของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แลัอังกฤษ รวมทั้งนักเตะเอาท์ฟิลด์ที่ลงสนามมากที่สุดให้กับทีมชาติ
เขาประเดิมสนามในเดือนกุมภาพันธ์ 2003 ในวัย 17 ปี และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้อังกฤษ
เขาสร้างชื่อเขย่าวงการในยูโร 2004 ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงและทำ 4 ประตู ทำให้เขากลายเป็นดาวยิงที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโร
รูนีย์ ไปฟุตบอลโลกสามสมัยในปี 2006, 2010 และ 2014 พร้อมทำ 53 ประตูจาก 120 นัดให้อังกฤษ
ทำให้เขาเบียด อลัน เชียร์เรอร์, แกรี ลิเนเกอร์ และ แฮร์รี เคน เข้ามาอยู่ในทีมชุดนี้
ขอบคุณที่มา goal.com
——-