#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์
การเตรียมลงทำศึก AFF U19 Championship 2022 หรือ ศึกฟุตบอล U19 ชิงแชมป์อาเซียน 2022 ระหว่างวันที่ 2 – 15 กรกฎาคม 2565 ณ ประเทศอินโดนีเซีย คืออีกหนึ่งบททดสอบสำคัญของทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้ ภายใต้การนำของ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวสเปนที่สร้างนักเตะในระดับเยาวชนจนก้าวมาเป็นขุมกำลังสำคัญในทีมชุดนี้
ชื่อของนักเตะหลายๆ คน ล้วนอยู่ในโฟกัสของแฟนบอลบ้านเราอยู่แล้ว ไล่มาตั้งแต่ ณรงค์ศักดิ์ เนื่องวงษา นายด่านจอมหนึบที่ถูกมองว่ามีอนาคตที่สดใส, พันธมิตร ประพันธ์ วันเดอร์คิดลูกหนัง รวมถึงเซ็ตตัวหลักที่สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาทั้ง สิทธา บุญหล้า, เกริกพล อาบรัมย์, คคนะ คำยก, นิพิฐพนธ์ วงค์ปัญญา บวกกับแข้งที่ผ่านประสบการณ์ในเส้นทางลูกหนังมาเกินวัยอย่าง โอลัคซอน เอ แทมบา, พลเอก มณีกร, ณัฐกิตติ์ บุตรสิงห์ หรือแม้แต่ บุคฆอรี เหล็มดี หากจะบอกว่านี่คือแข้งอนาคตของทัพ “ช้างศึก” ที่พร้อมส่งไม้ต่อไปยังรุ่น U23 หรือแม้แต่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ในอนาคตก็คงไม่ผิดไปจากนี้แต่อย่างใด
แต่ผมทราบสไตล์ของ ซัลบาดอร์ บาเลโร การ์เซีย อยู่แล้วว่า เจ้าตัวให้ความสำคัญกับ “ระบบ” เป็นทุนอยู่แล้ว ยิ่งบวกกับการได้วัตถุดิบที่ดี มาสอดคล้องอยู่ภายใต้ระบบการเล่น และการฝึกซ้อมแบบมืออาชีพ บอกได้เลยว่า การลงเล่นในศึก U19 ชิงแชมป์อาเซียนครั้งนี้สนุกอย่างแน่นอน
จริงอยู่ที่หลายๆ คนอาจจะมองว่าเราค่อนข้างจะเป็นต่อ แต่ฟุตบอลลูกกลมๆ แน่นอนว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ ยิ่งเป็นการแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ดังนั้น การไม่ประมาท และการวางแผนการเตรียมตัวให้ดีที่สุดทั้งในสนาม และนอกสนามจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุด เช่นเดียวกับการให้เกียรติคู่แข่ง ให้เกียรติแฟนบอล ดังนั้น คำที่นักเตะไทยชุดนี้ทุกคนต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจก็คือ “ทำให้เต็มที่” เพื่อให้เราได้ผลการแข่งขันที่ต้องการหลังจากสิ้นเสียงนกหวีดสุดท้ายให้ได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความผิดหวังทั้งจากทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตลอดจนทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ “ช้างศึก U19” ชุดนี้ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องไปให้ถึงตำแหน่ง “แชมป์สถานเดียว” ซึ่งในมุมมองส่วนตัว ผมมองว่าความกดดันในวันนี้เป็นเรื่องที่ดีครับ ที่จะทำให้น้องๆ ทุกคนได้เรียนรู้เพื่อหาวิธีการรับมือ และฝ่าฟันทุกๆ แรงเสียดทานเพื่อก้าวไปถึงเป้าหมายใหญ่ให้ได้
อย่าลืมนะครับว่านี่คือรายการที่จะช่วยให้เราได้รู้จุดอ่อน จุดแข็งของตัวเองก่อนที่เราจะเดินทางไปลุยศึก U20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกที่ประเทศโอมาน โดยมีคู่แข่งอย่าง โอมาน, ฟิลิปปินส์ และอัฟกานิสถาน ซึ่งมีตั๋วไปลุยศึก U20 ชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศอุซเบกิสถาน เป็นเดิมพัน โดยที่รายการดังกล่าวจะเป็นการคัดเอาตัวแทนจากทวีปเอเชีย ไปลุยศึก U20 ชิงแชมป์โลกที่ อินโดนีเซีย ในช่วงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
จากไทม์ไลน์ที่ได้เอ่ยมาทั้งหมด จะเห็นได้ชัดเลยว่า การแข่งขันในศึกชิงแชมป์อาเซียน คือจุดเริ่มต้นของบันไดสู่ฝันของทัพ “ช้างศึก” ชุดนี้ เพื่อเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดอย่างศึก U20 ชิงแชมป์โลก
หากเราฝันที่จะเป็นทีมระดับแถวหน้าของเอเชีย รากฐานสำคัญที่เราต้องไปให้ถึงก่อนก็คือ การพาตัวเองก้าวไปอยู่ในสถานะ “ทีมขาประจำ” ในศึกชิงแชมป์เอเชียให้ได้ และรายการชิงแชมป์อาเซียนในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้จะเป็นรายการที่ทำให้เราได้มองเห็นตัวเองอีกครั้งว่า เราดีพอที่จะต่อยอดชัยชนะ และความสำเร็จจากทัวร์นาเม้นต์นี้หรือไม่
ฟิลิปปินส์ คือทีมที่เราจะได้เจออีกครั้งในศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก
อินโดนีเซีย กำลังอยู่ในช่วงเวลาทอง 1 ปี สำหรับการเตรียมตัวเองให้พร้อมก่อนลงเล่นในศึกชิงแชมป์โลก ในฐานะชาติเจ้าภาพ
เวียดนาม ก็หวังที่จะต่อยอด และตอกย้ำสถานะการเป็นชาติอันดับ 1 ในเรื่องฟุตบอลแถบอาเซียนให้ได้ ดังนั้นจงจำเอาไว้ว่า หากเราสามารถพิชิตคู่แข่งทั้งสามชาตินี้ในรอบแบ่งกลุ่มได้ เราจะได้ผลพลอยได้นอกเหนือผลการแข่งขันนั่นคือ “ความมั่นใจ” ไปเต็มๆ
จงลงไปทำหน้าที่ในสนามให้เต็มที่ ให้สมศักดิ์ศรีกับคำว่า “ตัวแทนคนไทยที่รักฟุตบอลทั้งประเทศ” ขอให้ทุกคนโชคดี และกลับมาบ้านเราพร้อมกับคำว่า “จ้าวอาเซียน” เพื่อเตรียมตัวต่อสำหรับเวทีสำคัญอย่าง ศึก U20 ชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือกต่อไปครับ…
โปรแกรมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม A ของทีมชาติไทย มีดังนี้
วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.00 น.
ไทย พบ ฟิลิปปินส์
สนาม Patriot Candrabhaga Stadium
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.00 น.
เมียนมา พบ ไทย
สนาม Patriot Candrabhaga Stadium
วันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.00 น.
อินโดนีเซีย พบ ไทย
สนาม Patriot Candrabhaga Stadium
วันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม 2565 เวลา 17.00 น.
ไทย พบ บรูไน
สนาม Patriot Candrabhaga Stadium
วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2565 เวลา 20.00 น.
เวียดนาม พบ ไทย
สนาม Madya Senayan
#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต
#Chang #ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #AFFU19 #AFFU19YouthChampionship #ช้างศึกU19 #ทีมชาติไทยU19
