ดีพอบนความไม่พอดี

34

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งเกิดดราม่า หลังมีการประกาศผล 6 แคนดิเดตที่ผ่านเข้าไปลุ้นรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ PFA หรือสมาคมนักเตะอาชีพออกมาให้ได้รับรู้กัน

ปรากฏว่าไม่มีชื่อของ ซน ฮึง มิน อยู่ในสารบบด้วย แข้งที่ผ่านมาชิงคือ เฟอร์กิล ฟานไดค์ , ซาดิโอ มาเน่ , โมฮัมเหม็ด ซาลาห์ , เควิน เดอ บรอยน์ , แฮร์รี่ เคน และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งบางคนถูกตั้งคำถามว่า หลุดมาได้อย่างไรกัน

เพราะ ซน เพิ่งสร้างผลงานลือลั่นจบซีซั่นด้วยตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุด 23 ประตู ครองร่วมกับ ซาลาห์ แต่ของสตาร์เกาหลีใต้พิเศษกว่า ตรงที่ไม่มีลูกจุดโทษมาเจือปนเลย เกิดจากจังหวะในเกมเพียวๆ

ต้องบอกก่อนว่ารางวัลนี้ให้นักเตะร่วมลีก ลงคะแนนกันเอง โดยมีกฎห้ามจากทีมเดียวกัน โหวตให้กันเด็ดขาด จึงไม่น่าแปลกใจว่า PFA จะถูกยอมรับในวงกว้าง ด้วยเหตุผลนักเตะเลือกกันเอง

พวกที่หวดกันมาโครมๆในสนาม ย่อมรู้ดีสุดแล้ว ใครเจ๋งอย่างไรแค่ไหน ซึ่งคนที่ได้รับรางวัลย่อมภูมิใจเป็นธรรมดา

ทีนี้ ซน ซึ่งมาพร้อมผลงาน 23 ประตู 9 แอสซิสต์ ฟ้องอยู่แล้วว่ายอดเยี่ยมขนาดไหน จนมีส่วนสำคัญผลักดันท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์เข้าป้ายอันดับ 4 ได้สิทธิ์ไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกซีซั่นหน้าตามเป้าหมาย

แทบทุกคนต่างเชื่อว่า ซน น่าจะมีชื่อติดตั้งแต่ 6 คนที่ผ่านการคัดกรองแล้ว ก็เลยงงกันยกใหญ่ ว่าตกลงมีความผิดพลาดอะไรกันแน่

ตกลงพวกนักเตะด้วยกัน ยังมองว่า ซน ไม่ดีพอหรือ? นี่แหล่ะเป็นคำถามที่ค้างคางใจ

ในขณะเดียวกันสื่อก็ช่วยกันโหมจุดประเด็นนี้ให้เป็นที่สนใจมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ความสงสัยว่า มีเรื่องของความเป็นนักเตะเอเชีย ซึ่งอาจไม่ได้รับการยอมรับ มาเกี่ยวข้องด้วยเปล่า

แน่นอนว่าเรื่องนี้เราไม่อาจนำมาเป็นตัวชี้วัดหรือบอกให้ใครเชื่ออย่างว่าเลย มันละเอียดอย่างมาก ไม่มีทางพิสูจน์ได้เลย

ในมุมของแฟนบอลส่วนมากที่คอมเมนต์กันตามโซเชี่ยล ก็มีทิศทางไปในลักษณะเดียวกัน นั่นคือ ซน อาจถูกประเมินค่าต่ำเกินไป รวมถึงต้องยอมรับว่าความจริงที่ว่า ต่อให้นักเตะด้วยกันโหวต ก็ต้องมีเลือกที่รัก มักที่ชังเป็นธรรมดา

ซน ไม่ได้โดดเด่นเหนือคนอื่นแบบข่มขาดลอย อยู่ในระนาบที่ใกล้เคียงกับผู้เล่นหลายคน ฉะนั้นความสัมพันธ์หรือว่าสนิทกันส่วนตัว มันมีผลต่อการตัดสินใจโหวตทั้งสิ้นอยู่แล้ว

ดราม่าแรกยังไม่ทันหมดควันเท่าไร ดราม่าสองตามมาทันที หลังมีการประกาศรายชื่อแข้งยอดเยี่ยมและทีมแห่งซีซั่นเมื่อคืนวันพฤหัสบดี

ในระบบ 4-3-3 ตัวรุก 3 คนคือ โม ซาลาห์ กับ ซาดิโอ มาเน่ ประจำการริมเส้น ส่วนทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถูกวางไว้เป็นหน้าเป้า โดยที่ แฮร์รี่ เคน ซึ่งมีชื่อเป็นแคนดิเดตก็หลุดโผเหมือนกัน

แน่นอนว่าชื่อ ซน ต้องตกสำรวจอีก แล้วสื่อมากมายก็ช่วยกันโหมเชื้อไฟอีกครั้ง จนกลายบานปลายมากยิ่งขึ้น

เอาเข้าจริง น่าจะรู้กันก่อนอยู่แล้วว่า ซน ซึ่งไม่มีชื่อติด 6 คนสุดท้าย ซึ่งมีแข้งตัวรุกถึง 4 คน ยังไงก็ไม่มีทางอยู่ในทีมยอดเยี่ยมหรอก ไม่ได้น่าเซอร์ไพรส์ตรงไหน

ตรงนี้ต้องโทษสื่อนั่นแหล่ะ ที่ตีมึนมาทำสงสัยหรือตั้งคำถามเอง มันควรจะจบตั้งแต่ตอนประกาศแคนดิเดตแล้ว เลยไม่สงบง่ายๆ เพราะงานนี้ไม่ใช่แค่แฟนบอลอังกฤษ แต่ในเอเชียแสดงความเห็นกันร้อนแรงเลย

คือหากจะตัดเรื่องอคติออกไปก่อนเลย แล้วไปหาเหตุผลอื่นที่ดูมีน้ำหนักน่าเชื่อถือได้ก่อนจะดีกว่า

ตามกฎของ PFA การมอบรางวัลนี้ จะให้นักเตะโหวตกันเอง โดยตามกรอบเวลาปกติจะเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นมาและปิดโหวตในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเลย ใครไม่ลงคะแนนก็หมดสิทธิ์แล้ว

สมัยก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ของสมาคมนักเตะอาชีพ เดินทางไปยังสนามซ้อมของแต่ละทีม แล้วแจกจ่ายแบบฟอร์มให้ ในแบบฟอร์มมีเลือกแข้งที่คิดว่าเจ๋งสุด ดาวรุ่งยอดเยี่ยม รวมทั้งจัดทีมแห่งซีซั่นกันมาในแต่ละตำแหน่ง แล้วค่อยรวบรวมส่งกันอีกที

ภายหลังเพื่อความสะดวก บวกกับมีไวรัสเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยให้โหวตผ่านทางออนไลน์หรือแอพพิเคชั่นกันเอา

ดังนั้นเมื่อมีการปิดโหวตตั้งแต่ต้นพฤษภาคม แต่ซีซั่นยังไม่จบลง กำลังโม่แข้งเมามันเข้าไคล อาจเป็นไปได้ว่าใครที่มาโชว์ฟอร์มเหลือร้ายภายหลังอาจตกสำรวจ

มีข่าวว่าผู้เล่นแมนฯซิตี้หลายคนไม่พอใจเท่าไรนัก ที่กำหนดการปิดลงคะแนนเร็วเกินไป แทนที่จะรออีกสักหน่อย ไม่อย่างนั้น เดอ บรอยน์ มีโอกาสชวดทำสถิติคว้ารางวัลนี้ 3 ปีติดต่อกันสูงมาก

เพราะ เดอ บรอยน์ มาร้อนแรงเกินห้ามใจในโค้งท้าย โดยเฉพาะยิงโชว์คนเดียว 4 ประตู นัดถล่มวูล์ฟแฮมป์ตันราบเป็นหน้ากลอง 5-1 รวมถึงผลงานอีก 2 แอสซิสต์ ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคมเป็นต้นมา

แล้วสำคัญสุดคือแอสซิสต์ด้วยการเปิดให้ อิลคาย กุนโดกัน ส่องแอสตัน วิลล่าในนัดสุดท้าย ซึ่งเป็นประตูชี้ขาดให้แมนฯซิตี้ชนะ 3-2 ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกสำเร็จ

สรุปเป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย เดอ บรอยน์ ไม่ได้รับรางวัลนี้ ทำเอาแฟนแมนฯซิตี้ต่างเสียดายไปตามๆกัน เห็นกันอยู่ว่าเขาอยู่ในข่ายสมควรอย่างมาก จะได้ไปครอบครอง

ทีนี้ย้อนกลับมาดูที่ ซน ฮึง มิน บ้าง หากนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา สะเด่าเร่าร้อนสุดๆเช่นเดียวกัน

ยิง 2 ประตู 1 แอสซิสต์นัดเจอเลสเตอร์ , 1 ประตูบุกเสมอลิเวอร์พูล , 1 ประตู 1 แอสซิสต์ต้อนอาร์เซน่อลและ 2 ประตูส่งท้ายเจอนอริช จุดทำให้ผงาดดาวซัลโวสูงสุด รวมถึงคว้าตั๋วยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้

ช่วงดังกล่าวปิดการโหวตไปเรียบร้อย ผลงานนัดที่ว่าไม่ได้รวมอยู่สำหรับให้เพื่อนนักเตะได้ตัดสินใจ ซึ่งบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญ ฉุดให้แข้งเกาหลีใต้ไม่สมหวังในเรื่องรางวัล

ถ้าจะให้พูดให้ชัดคือ เกณฑ์ในการตัดสินหรือกฎกติกามันมีช่องโหว่อยู่นั่นแหล่ะ ซึ่งหากจะให้แฟร์ๆ ก็ควรโหวตหลังจบซีซั่นไปเลย นับผลงานตั้งแต่นัดแรกถึงนัดที่ 38 กันแบบตรงๆ

เมื่อรู้แล้วว่าปัญหาเกิดจากอะไร ถ้าทาง PFA เองก็รู้สึกว่าไม่ยุติธรรม ตามกระแสของสังคมจริง ก็ควรหารือเพื่อปรับปรุงกันใหม่

แต่ว่าไปแล้วเรื่องเกณฑ์แบบนี้ มีมาช้านานหลายสิบปี ไม่ใช่เพิ่งมาเกิดขึ้น ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนกัน

จากนี้ก็ให้เข้าใจกันไว้ว่า หากนักเตะคนไหนมีโอกาสลุ้นรางวัลจากสมาคมนักเตะอาชีพ ต้องเป็นประเภทม้าตีนต้น โชว์ผลงานเข้ามาตากันมาก่อน

ส่วน ซน ฮึง มิน การพลาดรางวัลหรือติดทีมยอดเยี่ยม อาจเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ถึงที่สุดแล้วเรื่องแค่นี้กีดกันความสามารถที่แท้จริงเขาไม่ได้เด็ดขาด

ตรงกันข้ามน่าจะทำให้ ซน ที่ผ่านการฝึกฝนความอดทนมาอย่างหนัก จะพยายามแสดงให้เห็นมากยิ่งขึ้นไปอีก

รางวัลอาจเป็นเครื่องหมายสะท้อนคุณค่า แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณไม่ได้แล้วไม่ดีพอหรอก

Cheerball

แบ่งปัน