“ขอโทษ น้อมรับ และปรับปรุง”

20

#ช้างศึกริงไซด์ by akinson149

“ผมเฝ้าดูผู้คนที่ประสบความสำเร็จมากมายและค้นพบว่าความสำเร็จของพวกเขาเหล่านั้นได้มาจากการทำงานอย่างหนักไม่ใช่การหวังพึ่งโชค” คำสอนของดิเอโก้ มาราโดน่า สุดยอดตำนานลูกหนังชาวอาร์เจนตินาที่ใครหลานคนต่างรู้จักเขากันดีในฉายา “หัตถ์พระเจ้า”

“ความสามารถส่วนบุคคลพาคุณเอาตัวรอดได้ในแต่ละนัด แต่ทีมเวิร์คต่างหากที่จะพาคุณรอดตลอดรอดฝั่ง” วลีติดปากของไมเคิล จอร์แดน ราชานักบาสฯตลอดกาล ชายที่เคยได้ชื่อว่าเป็นนักกีฬาที่รวยที่สุดในโลก

ไม่มีปาฎิหาริย์และความโชคดีมันก็ไม่ได้ยืนอยู่ข้างเราในวันที่เราต้องการกับชุด U23 ของโค้ชโย่งเมื่อวาน เพราะทีมชาติไทยพ่ายให้แก่เกาหลีใต้แบบหมดรูป (ตกรอบแบบสู้ไม่ได้และก็ไม่มีจมูกคนอื่นให้ยืมหายใจ)

ที่ผมจั่วหัวงานด้วยการหยิบยกวลีประจำตัวของตำนานนักบาสฯ และนักบอลชื่อดังอย่างมาราโดน่าและไมเคิล จอร์แดนนั้น ผมต้องการสะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในชุด U23 ซึ่งมันมีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานที่มันควรจะเป็น เฉกเช่นเดียวกับผลลัพธ์ที่ออกมาก็อย่างที่เราเห็น คือ “ไม่เป็นชิ้นเป็นอันซักอย่าง” (ซีเกมส์ไม่ได้แชมป์กลับบ้าน ในขณะที่ชิงแชมป์ทวีปก็ดันตกรอบแรกอีก ทั้งๆที่ 2 รายการนี้เราลงทุนใส่อินพุตเข้าไปเรียกได้ว่า “หมดหน้าตัก”)

ลงทุนเลื่อนโปรแกรมฟุตบอลภายใน, ดึงโค้ชทีมชุดใหญ่ลงมารับงาน, ขอตัวนอกมาช่วย และดึงตัวผู้เล่นจากทีมชุดใหญ่ให้ลงมาช่วยอุ้มชุดเล็กอีก นี่คืออินพุตที่ทีมงานโค้ชและสมาคมฯลงทุนไปกับชุด U23 เพื่อหวังว่าผลลัพธ์ว่ามันจะออกมาดีในแบบที่ตัวเองคิด

สิ่งที่ผมบอกว่ามันไม่เป็นไปตามหลักมาตราฐานในแบบที่มันควรจะเป็น อย่างแรกเลยคือการจัดลำดับความสำคัญของทัวร์นาเมนต์ที่จะส่งทีมไปแข่งขัน

ผมเข้าใจดีและก็รับรู้ถึงความลำบากใจของผู้ใหญ่ในสมาคมฯรวมไปถึงผู้จัดการทีมอย่างมาดามแป้ง ที่ได้รับโจทย์จากผู้มีอำนาจที่คงมองเรื่องของซีเกมส์เป็นเรื่องที่เราจะพลาดเหรียญทองไปไม่ได้ (คนเหล่านั้นอาจมีความเชื่อแบบเก่าๆ, อาจถือเอาซีเกมส์เป็นการประเมินผลงานประจำปี หรืออาจจะเป็นเรื่องของชื่อเสียงและหน้าตาที่ไม่อยากเสียหน้าถ้าไม่ได้แชมป์) นั่นจึงเป็นที่มาของการ “จัดเต็ม” โดยหลงลืมไปว่าการขายผ้าเอาหน้ารอดแบบนี้มันจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อรายการใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า

อย่างที่สองคือเมื่อกระดุมเม็ดแรกมันดันติดผิดและเราเลือกที่จะแก้ไขด้วย “ทางลัด” โดยมองข้ามเรื่องทั่วไปที่คนทำทีมฟุตบอลโดยเฉพาะระดับทีมชาติส่วนใหญ่เขามองกัน

การหนีบเอาบรรดาแข้งนอกมากว่าครึ่งทีม ท่ามกลางอุณหภูมิของประเทศที่ต้องลงแข่งที่สูงถึง 37-38 องศา คำถามที่ผมตั้งข้อสังเกตคือบรรดาแข้งที่ว่าจะใช้เวลาปรับตัวเข้ากับภูมิอากาศที่ว่านี้กี่วัน? จะมีใครป่วยมั้ย? จะวิ่งออกได้กี่คน? เมื่อพวกเขาต่างมาจากสถานที่ๆอุณหภูมิของที่นั่นมันดันต่ำกว่านี้เป็นสิบๆองศา

การเปลี่ยนตัวผู้เล่นแบบ “ยกทีม” จากชุดซีเกมส์มาเป็นชุดชิงแชมป์เอเชียแบบเปลี่ยนทั้งทีมงานโค้ชและนักเตะแบบยกเซ็ตภายใต้เวลาเตรียมทีมที่มีอยู่น้อยมากกับแมตช์ลองทีมที่มีให้ก่อนเดินทางแค่แมตช์เดียวกับฮ่องกง ว่ากันแบบนี้เราจะค้นหาคำว่า “ทีมเวิร์ค” ได้ทันมั้ยก่อนเข้าทัวร์นาเม้นต์

การใส่ชื่อยานนิค นุสบอม ทั้งๆที่รู้ว่าเจ้าตัวจะอยู่กับทีมได้แค่สองนัดเท่านั้นเป็นอะไรที่ทั้งแปลกและเชื่อว่าทีมชาติสากลเขาไม่ทำกัน เพราะหนึ่งมันส่งผลโดยตรงต่อโควต้าภายในทีมและสองมันส่งผลต่อสปิริตของทีม การไม่อยู่กับเพื่อนร่วมทีมจนจบทัวร์นาเม้นต์มันส่งผลแน่ๆไม่มากก็น้อยในด้านหลักจิตวิทยา, ความฮึกเหิม และกับคำว่า “สปิริตของทีม”

นักเตะไทยในทีมชุด U23 นี้ หลายคนมีความเป็นมืออาชีพและมีฝีเท้าที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต และผมก็เชื่อว่าแฟนบอลที่มีการคิดแบบวิเคราะห์-แยกแยะจะไม่โยนความผิดมุ่งเป้าไปที่นักเตะ เพื่อสิ่งที่ได้เห็นในสนามมันมีองค์ประกอบหลายๆอย่างที่พาพวกเขาเดินไปสู่จุดนั้น

การเลือก “จับปลาสองมือ” ไม่ผิด แต่มันเสี่ยงหากมือที่จะใช้จับปลามันไม่ “ใหญ่พอ”

กีฬามีแพ้มีชนะ และคนที่ละเอียดกว่า, พร้อมกว่าและทำงานหนักกว่าก็ย่อมควรค่าแก่ความสำเร็จที่ได้มาเป็นค่าตอบแทน ก็เหมือนอย่างที่ดิเอโก้ มาราโดนาว่าไว้นั่นแหละ

ทัวร์นาเมนต์ของ U23 จบลงแล้ว แต่เรายังต้องเดินกันต่อ เก็บบทเรียนที่ได้จากเหตุการ์ณในครั้งนี้เพื่อนำไปทำให้ “ดีกว่า” ในครั้งต่อๆไป

ขอโทษแฟนบอลที่ทำให้ผิดหวัง

น้อมรับคำวิจาร์ณเพื่อนำไปปรับปรุง

ขอบคุณทุกกำลังใจแล้วเราจะกลับมาใหม่ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

นี่คือ “คำสัญญา”

akinson149
………………………………………………………………………………….
“akinson149” พงศ์รัตน์ วินัยวัฒนวงศ์
Moderator เพจ thailandsusu (Section: บทความ-แปลข่าวบอลไทย) และคอลัมนิสต์ฟุตบอลไทย

#ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #AFCU23AsianCup #AFCU23 #ช้างศึกU23 #ทีมชาติไทยU23

แบ่งปัน