เฟร้งกี้ – เจมส์ ผีเอามั้ย?

เมื่อวานนี้พูดถึงมิดฟิลด์ “ตัวรอง” แต่คุณสมบัติดีตรงสเป็คที่น่าสนใจและ แมนฯยูไนเต็ด ไม่ต้องจ่ายแพงทั้งค่าตัวและค่าเหนื่อยนั่นก็คือ คอนราด ไลเมอร์ ดาวเตะทีมชาติออสเตรีย

เป้าหมายหลักที่โด่มาเลยของทีม ปีศาจแดง ในการแก้ปัญหามิดฟิลด์ตัวกลางด้อยคุณภาพสื่อก็พุ่งเป้าไปที่ เดแคลน ไรซ์ แข้งไดนามิควัย 23 ปีรวมไปถึง คัลวิน ฟิลลิปส์ กลางรับอาชีพที่แย่งบอลเก่งฟิตจัดวัย 26 ปีแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คว้าตัวกันง่ายๆ

ไรซ์ มีข้อจำกัดเรื่องของค่าตัวที่อาจจะพุ่งทะลุเกิน 100 ล้านปอนด์แถมค่าจ้างแพงระยับส่วน ฟิลลิปส์ คาดว่าจะเป็นเรื่องของต้นสังกัดเป็น ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่แค้นโดยตรงของ แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งเด็กคนนี้เกิดและโตที่นั่นด้วยอาจจะโน้มน้าวใจยากสักหน่อย

จริงแล้วการซื้อนักเตะไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อตัวท็อปที่มีอยู่บนตลาดเสมอไปหากเรามีสเป็คที่ชัดเจนและตัวกุนซือเป็นคนเลือกเฟ้นเองเอาชนิดที่มีสไตล์การเล่นเข้ากับระบบของทีมจากนั้นก็พิจารณาในเรื่องของ คาแรคเตอร์ และไลฟ์สไตล์นอกสนามซึ่งถือว่าเป็นตัวแปรที่ละเลยไม่ได้

ปัญหาของ แมนฯยูไนเต็ด ในแดนกลางก็คือต้องการมิดฟิลด์เกรดดีที่มีคุณสมบัติ “ไฮ-บริด” เป็น เบอร์ 6 และ เบอร์ 8 หรือที่เรียกว่า บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ รวมอยู่ในตัว…นั่นก็คือเกมรับแข็งแกร่งแย่งบอลดุดันอ่านเกมดีส่วนเกมรุกพาบอลขึ้นมาแจกจ่ายหรือสอดเข้าไปยิงประตูเองได้และถ้ามีทีเด็ดที่ลูกตั้งเตะจะยิ่งเจ๋งเข้าไปใหญ่

ไลเมอร์ ไม่ใช่ตัวท็อปในตลาดแต่มีคุณสมบัติตรงตามสเป็คอย่างที่ได้พูดถึงไปเมื่อวานนี้ลองมาดูอีกสองรายที่จะพูดถึงก็คือ เจมส์ วอร์ด พราวส์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษที่ค้าแข้งกับ เซาธ์แฮมป์ตัน

วอร์ด พราวส์ เป็นเด็กใต้โดยกำเนิดเกิดที่ พอร์ทสมัธ ครอบครัวเป็นแฟนพันธุ์แท้ ปอมปีย์ แต่เลือกเข้า อคาเดมี่ ของ เซาธ์แฮมป์ตัน เมื่อตอนอายุแค่ 8 ขวบขึ้นชั้นเล่นทีมชุดใหญ่ปี 2011 ตอนอายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น

วอร์ด พราวส์ ก็เหมือนแข้ง อิงลิช ทั่วไปที่มี คาแรคเตอร์ ดุดันห้าวหาญ “บวกเป็นบวก” ช่วงที่เพิ่งขึ้นชั้นสดมากเล่นเป็นปีกก็ปรู๊ดปร๊าด…เป็นสายพุ่งทะลุทะลวงดุดันมากกว่าสายเทคนิค

หลังจากประสบการณ์เริ่มแก่กล้าก็ถูกขยับเข้ามาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางด้วยสไตล์การเล่นที่ออกแนวบู๊พร้อมขย้ำแถมพาบอลบุกตะลุยทำเกมรุกได้ด้วยและที่สำคัญมีทีเด็ดที่ลูกตั้งเตะไม่ว่าจะเป็นเตะมุมหรือฟรีคิก

วอร์ด พราวส์ นับถึงตอนนี้ซัดฟรีคิกเข้าประตูไปแล้ว 14 ลูกใน พรีเมียร์ลีก เป็นรองเพียงแค่ เดวิด เบ็คแฮม เทพลูกนิ่งเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น…

การสังหารลูกฟรีคิกใครก็รู้ว่าไม่ใช่ของง่ายพรสวรรค์อย่างเดียวไม่พอมันต้องมีพรแสวงอย่างหนักในการฝึกซ้อมให้ได้น้ำหนักและเหลี่ยมมุมที่แม่นยำซึ่ง วอร์ด พราวส์ พิสูจน์ให้เห็นมาโดยตลอด

วอร์ด พราวส์ ในวัย 27 ปีถือว่ากำลังจะก้าวเข้าสู่ช่วงพีคของแข้งอาชีพเป็นหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ทั้งประสบการณ์และสภาพร่างกายที่แข็งแกร่งผ่านเกมระดับ พรีเมียร์ลีก มาแล้ว 301 นัดทำได้ 39 ประตูรวมไปถึงในนามทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อีก 10 เกมยิงได้ 2 ประตู

อีกรายหนึ่งที่เพิ่งเป็นข่าวก็คือ เฟร้งกี้ เดอ ยอง มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่ดูเหมือนว่าจะไม่อยู่ในแผนการทำทีมของ ชาบี เอร์นานเดซ กับ บาร์เซโลน่า ล่าสุดถูกเปลี่ยนตัวออกในเกมที่แพ้ ราโย บาเยกาโน่ คาบ้าน 0-1 หลังจากเล่นไปได้ 60 นาทีจากนั้นเดินเข้าห้องแต่งตัวไปเลย

เดอ ย็อง เป็นตัวเลือกชุดสองในยุคของ ชาบี ซึ่งเล่นระบบ 4-3-3 เซร์คิโอ บุสเก็ตต์ส เป็นตัวกสรีนหน้าแผงหลังในบทบาทเบอร์ 6 โดยมี กาบี้ กับ เปดรี้ สองแข้งดาวรุ่งสวมบทเบอร์ 8 ขับเคลื่อนเกมซึ่งกุนซือเจ้าบุญทุ่มชื่นชอบคู่นี้เป็นอย่างมากทำให้ เดอ ย็อง กลายเป็นตัวสำรอง

เดอ ย็อง เป็นมิดฟิลด์ที่มองผิวเผินเหมือนไม่มีอะไรโดดเด่นแต่ความเรียบง่ายของแข้งดัตช์นี่แหละที่จะสร้างประโยชน์ให้ทีมได้เพราะเขามีคุณสมบัติครบถ้วนตรงตามสเป็คที่ แมนฯยูไนเต็ด ต้องการแถม เทน ฮาก รู้ไส้รู้พุงเป็นอย่างดี

แข้งดัตช์วัย 24 ปีพื้นฐานฟุตบอลแน่นเปรี๊ยะแจกจ่ายบอลพรึ่บพรั่บแม่นยำสอดขึ้นไปทำเกมรุกได้ส่วนเกมรับก็ “เอาด้วย” ไม่ใช่รุกได้อย่างเดียวจุดเด่นก็คือการอ่านเกมที่ดีเยี่ยมได้จังหวะจะโคนตรงนี้จะทำให้ทีมได้สมดุล

เดอ ย็อง เป็นเด็กฝึกของ วิลเล่ม ทเว ก่อนย้ายมาอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมส์เตอร์ดัม ในปี 2015 ตอนนั้นอายุ 17 ปีก้าวขึ้นทีมชุดใหญ่ในปีถัดมาเพราะพัฒนาฝีเท้าได้รวดเร็วมีเซนส์ฟุตบอลที่ฉลาดในช่วงที่ค้าแข้งทีมนี้ถูกจับเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ,ตัวรุกหรือแม้กระทั่งเซ็นเตอร์แบ็กยืนคู่กับ มัทไธจ์ส เดอ ลิก ก็เคยเล่นมาแล้ว

การเคลื่อนไหวโดยไม่มีลูกบอลของ เดอ ย็อง ทำให้ทีมได้ประโยชน์นอกเหนือไปจากวิชั่นในการจ่ายบอลที่ลึกล้ำทำให้เพื่อนได้เปรียบก็เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมาก

ที่ผ่านมา แมนฯยูไนเต็ด ซื้อผู้เล่นเน้นไปที่โปรไฟล์และความสามารถเฉพาะตัวทำให้ทีมขาดความสมดุลสิ่งที่ต้องการคือนักเตะประเภท “มีประโยชน์” ต่อทีมเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระด้วย

เฟร็ด กับ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ อาจจะขยันทุ่มเทสู้ไม่ถอยแต่คุณสมบัติมีจำกัดรายแรกเกมรับก็ไม่ใช่จุดเด่นการยืนตำแหน่งหรือการแย่งบอลทำได้ไม่ดีนักส่วนเกมรุกแม้จะถูก ราล์ฟ รังนิก ปรับบทบาทไปเป็นเบอร์ 8 ก็ทำได้ไม่สุดยังไม่จัดจ้านพอ…รายหลังเป็นเด็กลูกหม้อเรื่องใจไม่ต้องพูดถึงแต่เรื่องความสามารถรุก-รับก็ไม่ต่างกับแข้งแซมบ้า

หากพิจารณาภาพรวม ไลเมอร์, วอร์ด พราส์ หรือ เดอ ย็อง แลดูไม่แตกต่างกับ เฟร็ด หรือ แม็คโทมิเนย์ แต่ถ้าลงลึกรายละเอียดสามคนแรกมีคุณสมบัติที่ดีกว่าในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นทักษะเชิงบอล,การจ่ายบอลสั้น-ยาวหรือการสอดขึ้นไปยิงประตู

ไม่มีใครรู้หรอกว่านักเตะคนไหนย้ายมาอยู่กับ แมนฯยูไนเต็ด แล้วจะพาทีมประสบความสำเร็จแต่ถ้า เอริค เทน ฮาก ได้เลือกผู้เล่นเองตรงตามสเป็คที่อยากได้มันจะช่วยให้วางรากฐานได้เร็วขึ้น

ไลเมอร์, วอร์ด พราวส์ และ เดอ ย็อง ถือเป็นสามตัวเลือกที่ตรงสเป็คและ แมนฯยูไนเต็ด จับต้องได้ในราคาที่ไม่โอเวอร์จนเกินไปกับภาวะที่ต้องสร้างทีมใหม่ใช้งบประมาณเยอะในการซื้อนักเตะหลายตัว

…สามคนนี้เหมาะที่จะดึงตัวมาร่วมทีมหรือไม่เชิญแสดงความคิดเห็นกันได้นะ

MankCs

Cheerball