จับตา “โค้งสุดท้ายบอลไทย” กับตั๋วตกชั้นสองใบสุดระทึก

24

#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

เรียกได้ว่าเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายแบบเต็มๆ สำหรับศึกฟุตบอล “รีโว่ ไทยลีก” 2021/22 ที่แม้ว่าเราจะทราบแล้วว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือแชมป์ไทยลีกประจำซีซั่นนี้ แต่พื้นที่โซนสีแดงที่ยังคงต้องลุ้นหนีตกชั้นอีกหลายทีมนั้นยังคงเต็มไปด้วยความมันส์ และการขับเคี่ยวกันอย่างสูสี

หากไม่นับ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการแล้ว เท่ากับว่า ณ ตอนนี้ยังมีตั๋วตะลุยศึกไทยลีก 2 เหลืออยู่อีกทั้งสิ้นสองใบด้วยกัน

แล้วใครหล่ะที่จะเป็นเจ้าของตัวสองใบดังกล่าวที่ไม่มีใครต้องการ ?

เมื่อเรามามองดูตารางคะแนนล่าสุด จะเห็นได้เลยว่า สมุทรปราการ ซิตี้ กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมต่อการตกชั้นเป็นทีมที่สองเป็นอย่างยิ่ง เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีเกมอยู่ในมือถึงสามนัด แต่ทว่าด้วยช่องว่างระหว่างทัพ “เขี้ยวสมุทร” กับพื้นที่ปลอดภัยที่ห่างมากถึง 7 คะแนน หากคู่แข่งในการหนีตกชั้นโดยตรงอย่าง พีที ประจวบ เอฟซี สามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ โปลิศ เทโร เอฟซี ในวันเสาร์ที่ 23 เมษายนนี้ได้ แล้ว สมุทรปราการ ซิตี้ ไม่สามารถบุกไปเก็บสามคะแนนเหนือ สุพรรณบุรี เอฟซี ที่ยังอยู่ในพื้นที่โซนสีแดงเหมือนกัน ทัพ “เขี้ยวสมุทร” จะต้องเก็บกระเป๋าตีตั๋วลงไปลุยศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ ฤดูกาลหน้าทันที

ทัพ “ช้างศึกยุทธหัตถี” เองก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นเต็มสูบ แน่นอนว่าพวกเขามีประสบการณ์ภายใต้สถานการณ์ที่บีบหัวใจเช่นนี้ อีกทั้งยังมีพลังแฟนบอลที่ซัพพอร์ตทีมเสมอ แต่ด้วยโปรแกรมที่ต้องยอมรับว่าอยู่ในขั้น “หนักมาก” ทั้งการเปิดบ้านดวลกับทีมในพื้นที่สีแดงอย่าง สมุทรปราการ ซิตี้ แม้แต่การบุกไปเยือน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเกมนัดรองสุดท้าย อาจจะเป็นตัวชี้วัดว่า สุพรรณบุรี เอฟซี ยังดีพอที่จะยืนหยัดอยู่บนเวทีลีกสูงสุดอีกต่อไปหรือไม่ หากสองเกมนี้พวกเขาไม่มีแต้ม โอกาสที่ สุพรรณบุรี เอฟซี จะต้องร่วงตกชั้นไปยังลีกพระรองก็ยังเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ถ้าพวกเขาสามารถเก็บได้อย่างน้อย 6 ถึง 7 คะแนนจากสามนัดดังกล่าว โอกาสที่พวกเขาจะ “โกงความตายอีกหน” และรอดตกชั้นก็ยังมีเช่นเดียวกัน

ขณะที่ พีที ประจวบ เอฟซี ที่แม้ว่าเคยสร้างสถิติสุดแกร่งด้วยการคว้าชัยได้ถึง 6 จาก 7 นัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงมีนาคมที่ผ่านมา แต่ทว่าผลงานสามนัดหลังสุดของแข้ง “ต่อพิฆาต” นั้นกลับพบความปราชัยทั้งหมด แถมยังเสียประตูไปมากถึง 12 ประตู ส่งผลให้พวกเขาต้องกลับมาอยู่ในสถานการณ์ที่ชวนบีบหัวใจอีกครั้ง อีกทั้งโปรแกรมในสองนัดสุดท้ายของพวกเขานั้นยังเป็นการลงเล่นในฐานะ “ทีมเยือน” ทั้งหมด (เยือน โปลิศ เทโร เอฟซี และเมืองทอง ยูไนเต็ด) สำหรับ พีที ประจวบ เอฟซี ที่ตอนแรกทำท่าว่าจะลอยลำ ถึงตรงนี้เราบอกได้เลยว่าอะไรที่เคยแน่นอน ก็ไม่แน่นอนเอาซะแล้ว และสิ่งเดียวที่จะทำให้พวกเขารอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาลนี้ไปได้ก็คือ การร่วมแรงร่วมใจภายในทีมเพื่อกวาด 6 คะแนนเต็มในช่วงโค้งสุดท้ายให้ได้สถานเดียว

ขณะที่สองทีมอย่าง ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่แม้ว่าปัจจุบันจะมีแต้มห่างจากโซนสีแดงอยู่ 4 คะแนน แต่ด้วยผลงานห้าแมตช์หลังสุดในลีกที่ยังไม่สู้ดีนัก (ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 3) บวกกับการที่ทั้งสองยังมีคิวต้องลงดวลกับทีมที่ทำผลงานได้ดี และมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ติดกลุ่ม Top 4 อย่าง หนองบัว พิชญ​ เอฟซี รวมถึง ชลบุรี เอฟซี ดังนั้น การไม่หวังยืมจมูกคนอื่นหายใจน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเชื่อได้เลยว่าทั้ง “ราชันมังกร” และ “สวาทแคท” น่าจะใส่เต็มสูบโดยที่ไม่ต้องไปลุ้นหนีตายจนถึงนัดสุดท้ายอย่างแน่นอน

ขึ้นชื่อว่าโลกของฟุตบอล อะไรก็ย่อมเกิดขึ้นได้ ยิ่งเป็นฟุตบอล “รีโว่ ไทยลีก” ที่แต่ละทีมมีมาตรฐานไม่ต่างกันนัก ต้องมาดูกันว่าในช่วงโค้งสุดท้ายที่บีบหัวใจแฟนบอลเช่นนี้ ใครกันที่จะเอาตัวรอด และปักหลักอยู่ในเวทีลีกสูงสุดต่อได้

แล้วคุณหล่ะครับ คิดว่าใครจะเป็นสองทีมที่ต้องหล่นไปตั้งหลักใหม่บนศึก M-150 แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้า ?

#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต

#ช้างศึก #TogetherAsOne #Thaileague #RevoThaileague #T1 #Thaileague2021 #ไทยลีก #รีโว่ไทยลีก #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #ไทยลีก2021

แบ่งปัน