เบนเซมาแสบอีกแล้ว! เชลซีชนะต่อเวลา 3-2 แต่มาดริดเข้ารอบ

764

สิงห์บลูส์แชมป์เก่านำก่อน 3-0 แต่โดนราชันชุดขาวไล่มา 2 ประตูทำให้ตกรอบ 8 ทีมด้วยผลสกอร์รวม 5-4

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2021/22 รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 คู่ระหว่าง เรอัล มาดริด เปิด ซานติอาโก เบอร์นาเบว ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี

ราชันชุดขาวบุกไปตุนสกอร์มาก่อน 3-1 เกมนี้ คาร์โล อันล็อตติ วางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำมาโดย เฟเดริโก บัลเบร์เด , วินิซิอุส จูเนียร์ และ คาริม เบนเซมา เป็นสามแนวรุก

ฝั่ง สิงโตน้ำเงินคราม ของ โธมัส ทูเคิล เกมนี้ไม่มีอะไรจะเสียจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 เช่นกันนำมาโดย เมสัน เมาท์ , ติโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ เป็นตัวชูโรง

เกมผ่านแค่ 15 นาที ทีมเยือนได้เฮลั่น ติโม แวร์เนอร์ ยกบอลให้ เมสัน เมาท์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงปั่นขวาเสียบโคนเสาอย่างเด็ดขาด เชลซี นำ 1-0 (3-2)

เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมครองบอลสูสีกัน แต่จังหวะสุดท้ายยังหาโอกาสเข้าทำได้ไม่มากนัก จบ 45 นาที มาดริด 0 เชลซี 1

เริ่มครึ่งหลังได้แค่ 6 นาที สิงห์บลูส์ มาได้ประตูนำห่าง 2-0 เมสัน เมาท์ เปิดลูกเตะมุมเข้าให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โขกเข้าไปทำให้สถานการณ์กลับมาเท่ากัน (3-3)

นาทีที่ 56 เจ้าถิ่นได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ โทนี โครส ปั่นด้วยขวา แต่ เอดูอาร์ เมนดี ยังเซฟไว้ได้

นาทีที่ 62 เอ็นโกโล ก็องเต ไหลบอลให้ มาร์กอส อลอนโซ ในเขตโทษเปิดด้วยซ้ายไปติดบล็อค การ์บาคัล บอลกระดอนมาโดนมือ อลอนโซ ที่แนบลำตัวก่อนได้ยิงซ้ำด้วยขวาตุงตาข่าย แต่ทว่า VAR ปฏิเสธการให้ประตูเพราะมองว่าเป็นแฮนด์บอล

นาทีที่ 66 เป็นโอกาสทองของเจ้าบ้าน แฟร์กลองด์ เมนดี ได้ครอสบอลด้วยซ้ายเข้ามาเสาไกลให้ คาริม เบนเซมา ได้โขกบอลชนคานเต็มๆ

นาทีที่ 75 แชมป์เก่าพลิกสถานการณ์ได้สำเร็จ มาเตโอ โควาซิช จ่ายบอลตามช่องให้ ติโม แวร์เนอร์ หลุดเข้าเขตโทษก่อนล็อคหนีตัวบล็อค 2-3 คน ยิงติด กูร์ตัวส์ แต่บอลยังปลิ้นเข้าประตูไป เชลซี นำ 3-0 (3-4)

3 นาทีถัดมา เชลซี เกือบฝังเจ้าบ้านจากลูกโหม่งของ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ไม่ผ่านมือ กูร์ตัวส์ ล้มตัวปัดไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

แต่นาทีที่ 80 ราชันชุดขาวมาได้ประตูต่อลมหายใจ ลูกา โมดริช เปิดโด่งไซด์ก้อยเข้าเขตโทษให้ โรดรีโก ตัวสำรองยิงแบบไม่จับเป็นประตูไล่มา 1-3 สกอร์รวมกลับมาเท่ากันที่ 4-4

ช่วงทดเจ็บ ยักษ์ใหญ่จากเกาะอังกฤษเกือบได้ประตูชัยจาก คริสเตียน พูลิซิช แต่ได้แค่ใกล้เคียง จากนั้นจบ 90 นาที ด้วยสกอร์รวม 4-4 ต้องต่อเวลาพิเศษ

ช่วงต่อเวลา 120 นาที
นาทีที่ 96 กลายเป็น โลส บลังโกส ไล่มาเป็น 2-3 (5-4) จากจังหวะ วินิซิอุส เปิดบอลให้ เบนเซมา ได้โขกผ่านมือ เมนดี ทำให้ มาดริด สถานการณ์กลับมาได้เปรียบอีกครั้ง

จบช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก เชลซี นำ มาดริด 3-2

ชาวงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง นาทีที่ 113 ทีมเยือนได้โอกาสทอง ฮาคิม ซิเย็ค ได้หลุดไปยิงเสาแรก แต่ ติโบต์ กูร์ตัวส์ ไม่พลาดปัดไว้ได้

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ หมดเวลาการแข่งขัน 120 นาที เชลซี ชนะ เรอัล มาริด 3-2 แต่ ราชันชุดขาว ผ่านเข้ารอบด้วยผลสกอร์รวม 2 นัด 5-4

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ธิโบต์ กูร์ตัวส์ (GK) , ดานี กาบาร์คัล , นาโช เฟร์นันเดซ (ลูคัส บาสเกวซ น.88) , ดาวิด อลาบา , แฟร์กลองด์ เมนดี (มาร์เซโล น.78) , โทนี โครส (เอดูอาร์โด กามาแว็งกา น.73) , คาเซมิโร (โรดรีโก น.78) , ลูกา โมดริช , เฟเดริโก บัลเบร์เด , วินิซิอุส จูเนียร์ , คาริม เบนเซมา (C)

เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี (GK) , รีช เจมส์ , ติอาโก ซิลวา , อันโตนิโอ รูดิเกอร์ , มาร์กอส อลอนโซ , เอ็นโกโล ก็องเต , รูเบน ลอฟตัส-ชีค , มาเตโอ โควาซิช , เมสัน เมาท์ , ติโม แวร์เนอร์ (คริสเตียน พูลิซิช น.83) , ไค ฮาแวร์ตซ์

ขอบคุณที่มา goal.com

แบ่งปัน