โควต้าอายุเกินกับการล่าเหรียญทองซีเกมส์

58

“โควต้าอายุเกิน” กับภารกิจล่าเหรียญทองซีเกมส์ 2021 ?
#แบกเป้ดูบอลไทย By #เก้นนิติพงษ์

สองเดือนต่อจากนี้ คือช่วงเวลาที่ถือได้ว่าสำคัญสำหรับทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่มีคิวลงเล่นในสองทัวร์นาเมนต์อย่าง ซีเกมส์ 2021 ณ ประเทศเวียดนาม (ฟุตบอลจะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 6-23 พฤษภาคม) และศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ ณ ประเทศอุซเบกิสถาน

แต่วันนี้ ประเด็นสำคัญที่เราจะนำมาถกกันก่อนนั่นก็คือ ซีเกมส์ 2021 ซึ่งเตรียมมีการจับสลากแบ่งกลุ่มกันในวันที่ 6 เมษายนนี้

ฟุตบอลชายในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้สามารถใช้โควต้าผู้เล่นอายุเกินได้ถึง 3 คน ซึ่งทาง “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชของทีมชุดนี้ก็เคยออกมายอมรับแล้วว่า ทีมชุดนี้กำลังมองหาโควต้าผู้เล่นอายุเกินอยู่โดยเฉพาะนักเตะในแนวรับ หลังจากที่ทัพ “ช้างศึก U23” เสียไปถึง 7 ประตูจากสามเกมในศึกดูไบ คัพ เมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา

ประเด็นเรื่อง “โควต้าอายุเกิน” จึงกลายเป็นประเด็นร้อนสำหรับแฟนบอลบ้านเราทันที และเกิดความเห็นที่แบ่งฝั่งกันอย่างชัดเจนระหว่างกลุ่มที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย !!!

โดยกลุ่มที่เห็นด้วยก็มองว่า นี่คือวิธีการที่แก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรม และรวดเร็วมากที่สุด เพราะถึงอย่างไร นักเตะโควต้าอายุเกินของบ้านเราก็ยังมีมาตรฐานที่สูงกว่าคู่แข่ง และเชื่อว่าสามนักเตะจากโควต้าดังกล่าวจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีชุดนี้ไปได้ถึงฝั่งฝันนั่นคือ “เหรียญทอง”

แต่เหตุผลสำหรับกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็น่าสนใจเช่นกัน โดยพวกเขามองว่า การใช้โควต้าอายุเกินจะส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมในทัวร์นาเม้นต์ที่สำคัญ และมีความหมายมากกว่านั่นคือ ศึกฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ อุซเบกิสถาน และการใช้โควต้าอายุเกินจะทำให้ทีมชุดนี้ขาดความต่อเนื่องโดยเฉพาะความเข้าใจเรื่องแทคติกในสนาม เพราะสุดท้ายแล้วทั้งสามคนนี้ก็ต้องหลุดจากทีมไปในช่วงเดือนมิถุนายนที่ อุซเบกิสถาน อยู่ดี

ที่สำคัญ แฟนบอลกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยยังมองว่า เราควรจะก้าวข้ามคำว่าเหรียญทองฟุตบอลซีเกมส์ได้แล้ว และปล่อยให้พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่สำหรับโอกาส และการพัฒนาของนักเตะจากรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี หรือไม่ก็ใช้ชุดอายุไม่เกิน 23 ปีจริงๆ มากกว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานฟุตบอลของทีมชาติไทยทั้งระบบ

ผมเข้าใจในเหตุผลทั้งสองฝ่ายว่าสุดท้ายแล้วทุกคนต่างก็ต้องการให้ทีมชาติไทยได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายก็ต้องอยู่ที่ทางทีมสต๊าฟชุดนี้แล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ “โควต้าอายุเกิน” ของทีมชุดนี้ไม่ง่ายอย่างที่คิดนั่นคือ การที่โปรแกรมของศึกฟุตบอลซีเกมส์นั้นคาบเกี่ยวกับโปรแกรมช่วงโค้งสุดท้ายของศึก “รีโว่ ไทยลีก” เพราะอย่าลืมว่าทุกคนที่ถูกเรียกทีมชุดนี้จะต้องใช้เวลากับหลายๆ กระบวนการไล่มาตั้งแต่การตรวจหาเชื้อโควิด จากนั้นเป็นการรายงานตัวเพื่อเก็บตัวฝึกซ้อม ก่อนจะเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องเกิดขึ้นก่อนที่เราจะลงเล่นในเกมนัดแรกอย่างน้อย 4-7 วัน ซึ่งนั่นอาจจะทำให้นักเตะเหล่านั้นต้องหายไปจากต้นสังกัด 1-2 เกม

และในกรณีที่สามนักเตะในใจของ “โค้ชโย่ง” นั้นยังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังต้องช่วยให้ต้นสังกัดบรรลุเป้าหมายอะไรสักอย่าง ทีมสต๊าฟชุดนี้จะมีแผนสองกับการเฟ้นหา “คนที่ใช่ และเหมาะสมกับทีมชุดนี้” อย่างไร

หากวิเคราะห์ในมุมที่ “โค้ชโย่ง” และทีมสต๊าฟชุดนี้ตัดสินใจเลือกใช้ “โควต้าอายุเกิน” แน่ๆ ผมมองว่าเราจะเลือกใช้โควต้านี้ในตำแหน่ง “ปราการหลังตัวกลาง” ที่มีคาแรกเตอร์ความเด็ดขาด และมีความเป็นผู้นำสูง เพื่อชดเชยปัญหาที่เรายังแก้ไม่ได้จาก ดูไบ คัพ

ส่วนอีกสองตำแหน่งที่ผมขออนุญาตเดาก็คือ “มิดฟิลด์ตัวรุก” ที่ต้องคอยขับเคลื่อนเกมรุกทีมชุดนี้ให้ดุดันกว่านี้ เพื่อประสานงานกับ “ศูนย์หน้าตัวเป้า” สักคนที่ต้องมี มีความเร็ว เยือกเย็น และเลือดเย็นพอเพื่อปิดบัญชีในพื้นที่สุดท้ายให้ได้

แต่สำหรับผม ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าถ้าเราสามารถใช้นักเตะชุด U23 ทั้งหมดเพื่อทำให้ทีมชุดนี้เกิดความต่อเนื่องมากที่สุดไปจนถึงรายการชิงแชมป์เอเชีย ที่ อุซเบกิสถาน ซึ่งผมมองว่านั่นคือรายการที่เราควรจะให้ความสำคัญมากกว่าการล่าเหรียญทองซีเกมส์ ที่ เวียดนาม เพราะผมยังเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเตะรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีของเราที่ผ่านประสบการณ์ทั้งในเวทีระดับไทยลีก 1, ไทยลีก 2 ว่ายังดีพอเมื่อเทียบกับชาติในอาเซียน ขอเพียงแค่เราไม่ประมาทเท่านั้น

แล้วเพื่อนๆ หล่ะครับ คิดว่าเราจำเป็นต้องใช้ “โควต้าอายุเกิน” กับการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์หนนี้รึเปล่า และถ้าต้องใช้ เพื่อนๆ คิดว่าสามคนนั้นควรจะเป็นใคร ? เชิญทุกคนมาร่วมถกประเด็นนี้กันครับ…

#เก้น #นิติพงษ์ยวนตระกูล ผู้จัดการสื่อสารการตลาด & มีเดีย หนุ่มเมืองเหนือไฟแรง : ผู้บรรยายฟุตบอล และบรรณาธิการกีฬา ที่คลั่งไคล้มนต์เสน่ห์ลูกหนังอย่างจริงจังโดยเฉพาะฟุตบอลไทย จนตัดสินใจยกหัวใจให้ “เกมลูกหนัง” เป็นตัวนำทางชีวิต

#ช้างศึก #ทีมชาติไทย #TogetherAsOne #Changsuek #Thailand #บอลไทย #ฟุตบอลไทย #FAThailand #ช้างศึกU23 #ทีมชาติไทยU23 #Seagames #ซีเกมส์

แบ่งปัน