อย่าให้ทัศนคติเป็นพิษ

24

#อย่าให้ทัศนคติเป็นพิษ ]

จู๊ด เบลลิ่งแฮม ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อพฤศจิกายน 2020 ในวัยเพียงแค่ 17 ปีกับอีก 136 วันเท่านั้น

นี่คือสถิติแข้งอายุน้อยสุดลำดับ 3 ที่รับใช้ทัพสิงโตคำราม รองจาก ธีโอ วัลค็อตต์ และ เวย์น รูนี่ย์ สองรุ่นพี่เคยสร้างชื่อในช่วงยังบลัดมาก่อน

จากวันนั้นจนถึงวันนี้เกือบ 1 ปีครึ่ง เบลลิ่งแฮม ลงสนามให้อังกฤษไปแล้ว 12 นัด จำนวนตัวเลขนี้พอจะยืนยันได้เลยว่า เขากลายเป็นหนึ่งในขุนพลสำคัญของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ไปแล้ว

ล่าสุดคือเกมอุ่นเครื่องเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ได้ออกสตาร์ตและอยู่ในสนามครบ 90 นาที ช่วยสิงโตต้อนไอวอรี่โคสต์ 3-0 โดยตัวเขาเองได้รับคำชมอย่างล้นหลาม

ด้วยวัยเพียงแค่ 18 ปีเศษๆ นับว่าน้อยเหลือเกิน แต่กลับสามารถแบกรับภาระหนักในแดนกลางได้อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะร่วมงานกับรุ่นพี่คนไหน มาตรฐานก็ไม่มีตกลงเลย

นั่นจึงเป็นที่มาเสียงชื่นชมของ แจ็ค กรีลิช ซึ่งเป็นอีกคนที่อดไม่ได้จะต้องยกย่องผ่านสื่อ

“ตอนผมอายุเท่าเขา เพิ่งจะถูกปล่อยยืมให้น็อตต์ส เคาน์ตี้ใช้งานเท่านั้นเอง”

กรีลิช อยากจะเปรียบเทียบตัวเขากับ เบลลิ่งแฮม ในวัย 18 เหมือนกัน แต่สถานะต่างกันอย่างลิบลับ

เหมือนกำลังจะถามว่าตอนอายุ 18 คนทำอะไรอยู่ สำหรับ เบลลิ่งแฮม ก้าวขึ้นสู่ทีมชาติอังกฤษอย่างเต็มตัวแล้ว

ทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2020 เมื่อกลางปีที่แล้ว แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ก็ตัดสินใจเรียก เบลลิ่งแฮม ติดทีมไปด้วย ตอนแรกคิดว่าให้ไปสัมผัสบรรยากาศในแคมป์ เรียนรู้การฝึกซ้อมและวัฒนธรรมต่างๆก่อน

แต่ถึงเวลากลับถูกส่งเป็นสำรองเกมเจอโครเอเชีย ทำให้สร้างสถิติอีกครั้ง กลายเป็นผู้เล่นอังกฤษอายุน้อยสุดที่ได้ลงในทัวร์นาเม้นต์ระดับเมเจอร์ด้วย

เหตุผลหลักช่วยให้ เบลลิ่งแฮม มีพัฒนาการอันรวดเร็วแบบก้าวกระโดด น่าจะเป็นการตัดสินใจเลือกย้ายไปโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ในช่วงซัมเมอร์ 2020

หลายต่อหลายคนยังคงพอจำได้ ช่วงดังกล่าวเด็กหนุ่มคนนี้ถูกแสงสปอร์ตไลต์ส่องมาหา แม้ว่าจะเล่นในเดอะ แชมเปี้ยนชิพกับเบอร์มิ่งแฮมก็ตาม

ด้วยความที่ฝีเท้าจัดจ้านกร้านเกินอายุ บรรดาสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีก รวมทั้งท็อปทีมต่างแดนจึงให้ความสนใจ อยากจะฉุดไปร่วมทีมด้วยเหลือเกิน

แมนฯยูไนเต็ดดูจริงจังตั้งใจมากกว่าใคร เดินเข้าหาเบอร์มิ่งแฮมและตัวนักเตะก่อนเลย อีกทั้งเข้าทางพ่อแม่ด้วย เพราะ เบลลิ่งแฮม ยังไม่พ้นบรรลุนิติภาวะ

ตามรายงานข่าวระบุว่ายื่นข้อเสนอให้เบอร์มิ่งแฮม 30 ล้านปอนด์ นับเป็นตัวเลขบ้าคลั่ง สำหรับเด็กอายุ 16 ปีและเล่นอยู่ในลีกรอง

เบลลิ่งแฮม ลงให้เบอร์มิ่งแฮมอย่างต่อเนื่อง กลายเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญ ทำงานหนักในแดนกลาง กระทั่งฤดูกาลสิ้นสุดลงเขาคว้าตำแหน่งผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมเดอะ แชมเปี้ยนชิพประจำซีซั่นอีกต่างหาก

แมวมองของแมนฯยูไนเต็ดที่เข้ามาส่องฟอร์มอย่างสม่ำเสมอ ทำรายงานไว้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งแนะนำว่าควรรีบปิดดีลให้เร็วที่สุด

นั่นคือเหตุผลทำให้แมนฯยูไนเต็ดรีบยื่นอย่างไม่รีรออะไรทั้งสิ้น แม้จะไปถึงก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสมหวัง

เบลลิ่งแฮม ไม่ได้เร่งรีบตัดสินใจ ยังคงรอข้อเสนอจากที่อื่นด้วย โดยเฉพาะทางดอร์ทมุนด์เองก็ติดต่อผ่านทางครอบครัวมาเช่นกัน

ทางฝั่งเบอร์มิ่งแฮมเองอยากได้เงินก้อนใหญ่มากสุด เพื่อนำมาพยุงทีมซึ่งสถานการณ์น่ากังวลในเวลานั้น

อย่างไรก็ดีต้องปล่อยให้ เบลลิ่งแฮม เป็นฝ่ายเลือกเอง จนกระทั่งจิ้มมาที่ดอร์ทมุนด์นั่นแหล่ะ

เบอร์มิ่งแฮมฟันค่าตัว 25 ล้านปอนด์ จากการขายผู้เล่นวัย 16 ปี เป็นดีลที่น่าทึ่งมาก สโมสรเลยตัดสินใจรีไทร์เสื้อเบอร์ 22 ให้กับ เบลลิ่งแฮม เป็นการตอบแทน พร้อมให้เหตุผลว่า เพื่อเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักเตะรุ่นหลังให้มุ่งมั่นตามรอยความสำเร็จ

ตอนนั้นมีเสียงวิจารณ์ว่าโอเวอร์ไปหรือเปล่า เล่นได้เพียงแค่ซีซั่นเดียว อายุก็แค่เด็กน้อย ไม่ทันได้พิสูจน์ระยะยาว ก็เอาอกเอาใจกันขนาดนี้แล้ว เห็นแก่เงินมากกว่า

แน่นอนว่าเงิน 25 ล้านปอนด์ ช่วยเบอร์มิ่งแฮมลืมตาอ้าปากได้ แต่มันคือความตั้งใจของผู้บริหาร ไม่ได้มีเรื่องอื่นแอบแฝงเลย

จากนั้นคนที่เคยวิจารณ์ไว้ ก็คงเงียบปากเป็นที่เรียบร้อย เบลลิ่งแฮม โชว์ให้เห็นว่าไม่ได้เป็นพวกนักเตะ overrates หรือถูกยกย่องเกินความจริง

ฟอร์มกับดอร์ทมุนด์และทีมชาติอังกฤษ ขับเด่นชัดขึ้นทุกวัน ขึ้นแท่นดาวรุ่งฝีเท้าพุ่งที่สุดคนหนึ่งในยุโรป

รอย คีน กูรูฝีปากกล้า ซึ่งมักพูดจาโผงผางตรงไปตรงมาและมักโยนก้อนอิฐให้มากกว่ายื่นดอกไม้ ยังอดไม่ได้จะต้องเอ่ยปากชื่นชมเด็กคนนี้

“เหตุผลที่เขาสวมเบอร์ 22 คือเล่นได้ทุกตำแหน่งเบอร์ 10 , เบอร์ 8 และเบอร์ 4 เมื่อรวมกันแล้วก็คือ 22 นั่นแหล่ะ”

คีน อยากจะสื่อว่า เบลลิ่งแฮม เล่นได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในแดนกลาง ไม่ว่าจะเป็นตัวรับ ตัวรุก เชื่อมเกมหรือโฮลด์บอล บอสสั่งมาแบบไหนได้หมด แถมยังไร้ที่ติอีกต่างหาก

เสียงสรรเสริญเยินยอเหล่านี้ มันเปรียบเหมือนน้ำทิพย์ชโลมหัวใจให้สดชื่น หล่อเลี้ยงความรู้สึกให้มีแรงเดินหน้าพัฒนาต่อไป

ยิ่งสำหรับเด็กหนุ่มวัย 18 แล้ว การถูกยอมรับจากอดีตกองกลางผู้ยิ่งยงอย่าง คีน มันย่อมมีค่ามหาศาล

แต่ในอีกด้าน เสียงหวานๆเหล่านี้ หากหมกมุ่นมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อทัศนคติได้เหมือนกัน

เพราะอาจทำให้นักเตะเหลิงไปกับมัน เตลิดจากยากจะดึงกลับมา

——————

เมื่อธันวาคมปีที่แล้ว หลังเกมบุนเดสลีกาโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์พ่ายบาเยิร์น มิวนิคอย่างดุเดือด 2-3 จู๊ด เบลลิ่งแฮม ออกมาวิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินด้วยความเกรี้ยวกราด

เกมนั้นผู้ตัดสินแจกจุดโทษบาเยิร์นอย่างน่ากังขา เบลลิ่งแฮม จึงให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า ไม่น่าเอาผู้ตัดสินประวัติด่างพร้อยมาทำหน้าที่ เพราะอดีตเคยโดนข้อหาล็อกผล

เท่านั้นเองสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมันหรือเดเอฟเบ ลงโทษด้วยการสั่งปรับเงิน 40,000 ยูโร จากความไร้น้ำใจนักกีฬา ไม่ยอมรับการตัดสิน

สำหรับเด็กอายุแค่ 18 ปี การใช้คำรุนแรงเช่นนี้ถือว่ากร้านเกินวัยมาก มันดูจะเกินไป ไม่ค่อยเหมาะสม

แล้วเมื่อต้นเดือนมีนาคมก็มีข่าวด้านลบของ เบลลิ่งแฮม ออกมาอีกระลอก ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ชักมัวหมองหนักขึ้น

เดอะซันอ้างว่า นักเตะรุ่นใหญ่ของดอร์ทมุนด์บางคน เริ่มไม่พอใจพฤติกรรมในลักษณะไม่เคารพกันของ เบลลิ่งแฮม ที่ดูแล้วหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ

เช่นในเกมยูฟ่า ยูโรปาลีกรอบเพลย์ออฟเลกสองกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ส เราได้เห็นเหตุการณ์ที่เขาโวยวายใส่ นิโก้ ชูลซ์ แบ็กซ้ายดีกรีทีมชาติเยอรมันวัย 28 ปี อายุห่างกันตั้ง 10 ปี

ที่ไม่สมควรอีกข้อคือ การตะคอกต่อหน้าสาธารณะ ใครได้เห็นก็ตำหนิว่าไม่เหมาะสมเอาซะเลย

นอกจากนี้ยังมีการไปขุดเรื่องราวในอดีตเพิ่มว่า เบลลิ่งแฮม เคยไม่สนใจคำแนะนำของ อักเซิ่ล วิตเซิ่ล กองกลางรุ่นพี่ที่ต้องประสานงานกัน

ไม่ฟังไม่ว่า ยังมีการต่อล้อต่อเถียงอีกต่างหาก นั่นก็สร้างความรู้สึกไม่ค่อยดีให้แข้งดอร์ทมุนด์หลายคน

ฝีเท้าที่รุดหน้าเกินอายุ เสียงชื่นชมยกย่องที่หลั่งไหลเข้ามา ล้วนเป็นเรื่องดี หากมีสติรู้ว่ามันคืออะไร

แต่หากไปลุ่มหลง นำมายึดติดส่วนตัว คิดว่าข้านี้เจ๋งเก่งกว่าใคร นั่นแหล่ะจะอันตรายต่อ เบลลิ่งแฮม อย่างมาก

ทัศนคติสำหรับนักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงทั้งหลายสำคัญมากๆ เพราะจะเป็นตัวชี้ขาดว่าคุณจะได้ก้าวผ่านประตูสู่การเป็นซูเปอร์สตาร์หรือไม่

หวังว่า เบลลิ่งแฮม จะรู้ทันความคิดตัวเอง ผ่านแบบทดสอบด่านหินนี้ได้

————-

รูปภาพ

Cheerball

แบ่งปัน