[ #ทำไมแฟนผีไม่เอาพอช ? ]
หลังปารีส แซงต์ แชร์กแมงโดนนีซบุกมาเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกเฟร้นช์ คัพ อุณหภูมิเก้าอี้เทรนเนอร์ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็พุ่งพรวดสูงขึ้นมาทันที
นี่คือการพลาดแชมป์ครั้งที่สองของเปแอสในฤดูกาลนี้ เพราะก่อนหน้าก็เจอลีลล์น็อกมาแล้วในเฟร้นช์ แชมเปี้ยนส์ โทรฟี่ ทั้งที่วัดจากทุกด้านแล้วเหนือกว่าอย่างชัดเจน
ไม่ต้องพูดอะไรมากหรอก พวกเราต่างเข้าใจได้ว่า ถ้วยในประเทศฝรั่งเศสทั้ง 4 ใบ ล้วนเป็นเป้าหมายของเปแอสเชทั้งสิ้น หากทำพลาดหลุดมือสิเป็นเรื่องแปลกประหลาด
แล้วปัจจุบันเฟร้นช์ ลีกคัพรายการน้องนุชสุดท้อง ทางแอลแอฟเปหรือฟุตบอลลีกฝรั่งเศส ก็ยกเลิกไปเรียบร้อยแล้ว จากที่เคยมีชิงชัย 4 เหลือแค่ 3 เท่านั้น
หมายความว่าเปแอสเชจึงเหลือแค่ลีกเอิงให้ได้ลุ้น ซึ่งตอนนี้นำโด่งแล้ว 11 คะแนน ทว่าเรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย
ทุกคนต่างฟันธงเปรี้ยงไปแล้วว่า แชมป์ลีกในประเทศคงไม่หนีหายไปจากยักษ์ใหญ่แห่งเมืองหลวงแน่นอน หลังเสียฟอร์มครั้งใหญ่ในซีซั่นที่แล้ว แต่พอเข้าใจว่ามีปัญหารุมเร้าเยอะ อีกทั้งเปลี่ยนกุนซือกลางคัน
อย่างไรก็ดีทำให้ พอช เสียรังวัดไปพอสมควร เหล่าปารีเซียงทั้งหลายคาดหวังว่าน่าจะป้องกันแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จ ไม่ว่าอย่างไรเทียบแค่ประสิทธิภาพและมูลค่าผู้เล่นในทีมก็ข่มกระจุย
แต่ก็ยังมีเสียงบอกว่าไม่เป็นไรพอสมควร เพิ่งจะมาเองต้องอาศัยเวลาตั้งหลักตั้งลำกันบ้างแหล่ะ แล้วช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ก็ไม่ปกติอีกด้วย ไวรัสระบาดจนหลายอย่างคลาดเคลื่อนไปหมด
มวลความหวังก้อนใหญ่จึงถูกเทมาในฤดูกาลนี้ เปแอสเชต้องเปรี้ยงสมราคา ไม่ใช่ล้มเหลวเหมือนอย่างเคยอีก
ไม่ใช่แค่นั้น พอช ยังมีขุมกำลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก บอร์ดบริหารให้งบประมาณเสริมผู้เล่นชั้นเซียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ , เซร์คิโอ รามอส , จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม , อัชราม ฮาคิมี่ , นูโน่ เมนเดส และ จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ไหนจะเซ็นถาวร ดานิโล่ เปเรยร่า อีกคน
เมื่อรวมกับของเดิมที่มีอยู่ ทุกคนกล้าที่จะพูดเลยว่า อย่างนี้ในลีกเดียวกัน ใครจะกล้ามาสู้ล่ะ
เอาแค่ส่วนนักเตะอย่างเดียว นี่คือระดับท็อปของยุโรปแล้ว บอกได้เลยว่าไม่เป็นรองทีมไหนเลยล่ะ
แต่การทำทีมฟุตบอลอาชีพ คือโลกแห่งความจริงที่โหดร้าย เต็มไปด้วยการแข่งขันและตัวแปรต่างๆมากมาย ไม่เหมือนกับเล่นเกมส์นั่งอยู่หน้าจอหรอก
พอช ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาสารพัด ไม่ใช่แค่ในสนามเท่านั้น เรื่องการควบคุมผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์ให้อยู่ในกรอบ เชื่อฟังกันอย่างเคร่งครัดคืองานที่หินมากๆ
ลองจินตนาการว่าต้องปะทะทั้ง เมสซี่ , เนย์มาร์ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ดูแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไร
โธมัส ทูเคิ่ล เคยประสบปัญหานี้มาก่อน ฤดูกาล 2019/20 กวาดเรียบโทรฟี่ 4 ใบไม่มีเหลือแบ่งให้ใคร แถมยังฝ่าด่านไปถึงนัดชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอีกต่างหาก แต่ต้านทานความแกร่งและเก๋าของบาเยิร์น มิวนิคไม่ไหว
พอฤดูกาลรุ่งขึ้น เกิดแรงกระเพื่อมข้างในหนักหน่วง สุดท้ายก็ไม่รอดโดนเชือดสังเวยตามระเบียบ
เคสของ พอช ดูหนักกว่าด้วยซ้ำ ประเดิมด้วยความปราชัยลีลล์ในโตเฟ่ เดอ ชาปิยองส์ ตามด้วยพ่ายจุดโทษนีซคาบ้าน กระเด็นตกเฟร้นช์ คัพซ้ำอีกแผล
ชะตาของเขาจะขึ้นอยู่กับผลเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่จะดวลกับเรอัล มาดริดทั้ง 2 เลก
เลกแรกเล่นในบ้านก่อนวันที่ 15 กุมภาพันธ์ แล้วตามด้วยไปเยือนบ้างในวันที่ 9 มีนาคม
สมมุติว่าพ่ายจนหลุดจากวงโคจรอีก คาดกันว่าจะโดนปลดแน่ๆ สื่อใหญ่ทั้งเตเลฟุตและเลอ ปารีเซียงต่างร่วมกันโหมข่าวนี้ด้วย
ในขณะเดียวกันเชื่อกันว่า ต่อให้พาเปแอสเชผ่านมาดริดสำเร็จ เต็มที่เลย พอช ก็น่าจะได้นั่งเก้าอี้แค่จบฤดูกาล ไม่ได้ครบเทอมตามสัญญาที่เหลือถึงซัมเมอร์ 2023 เด็ดขาด
แต่ถ้าออกโดนเขี่ยร่วงถ้วยใหญ่ยุโรป ตามด้วยเจอเด้ง หมายความว่าประตูสู่ผู้จัดการทีมแมนฯยูไนเต็ด น่าจะเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิม
ด้วยสถานภาพที่ว่างงาน ทำให้การเจรจาสะดวกมากกว่าเดิมหลายเท่า ไม่ต้องพะวงอะไรอีกต่อไป เปิดหน้าเล่นแบบเต็มที่
อย่างไรก็ดีแฟนผีไม่น้อย ชักหวั่นใจว่า พอช ยังไม่น่าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับภารกิจนำปีศาจแดงหวนคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
จากที่โอเคบ้าง หลายคนเริ่มรู้สึกเปลี่ยนไป ไม่ค่อยไว้ใจอย่างที่เคยแล้ว
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ช่วงที่ดีสุดในชีวิตกุนซือของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ คือการคุมท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ตั้งแต่ปี 2014-2019
แม้จะไม่ได้สัมผัสความสำเร็จเป็นรูปธรรม แบบจับต้องโทรฟี่มีเหรียญรางวัลมาคล้องคอ แต่เขาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนักสร้างที่ยอดเยี่ยม
เปลี่ยนสถานะของไก่เดือยทอง ให้ก้าวมาเป็นทีมระดับท็อปของพรีเมียร์ อยู่ในขบวน “ท็อปซิกซ์” อย่างสง่างามน่าชื่นชม รวมทั้งยิด อาร์มี่ทั้งหลายเดินเชิดหน้าแถวลอนดอนเหนือ ไม่ต้องอายแฟนบอลอาร์เซน่อลอีกต่อไป
นอกจากนี้ยังต้องต่อสู้กับการใช้เงินอย่างจำกัด ไม่สามารถซื้อผู้เล่นได้อย่างต้องการ นับเป็นสภาวะที่น่าอึดอัดเลยทีเดียว
นักเตะหลายคนของสเปอร์ส แจ้งเกิดในยุคที่มี พอช เป็นบอสนั่นแหล่ะ
อย่างไรก็ดีจุดเปราะของกุนซืออาร์เจนไตน์ อยู่ตรงที่ถึงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน ต้องลงเล่นเกมสำคัญมักพลาดเสมอ แถมมีเงื่อนปมอีกต่างหาก
ที่ชัดเจนคือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนัดชิงในซีซั่น 2018/19 พ่ายลิเวอร์พูลแบบไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะฮึดสู้เพื่อกลับมาเลย เหมือนศิโรราบตั้งแต่ต้นเกมหรือนัดชิงลีกคัพในปี 2015 ที่โดนเชลซีสอนเชิงก็เช่นเดียวกัน
พอกระแส พอช อาจถูกปลดแรงมากขึ้น เริ่มมีเสียงต่อต้านจากแฟนแมนฯยูไนเต็ดที่ไม่ต้องการกุนซือรายนี้มาคุม
อย่างแรกเลยก็คือ คงเป็นเรื่องแปลกๆที่ทีมใหญ่อย่างปีศาจแดง ไปเลือกเอากุนซือที่โดนปลดจากสองสโมสรก่อนหน้านั้นติดต่อกัน
ลำดับถัดมาคือการคอนโทรลนักเตะดังๆ เมื่อคุณล้มเหลวเรื่องนี้จากเปแอสเช อาจมาซ้ำรอยได้กับที่แมนฯยูไนเต็ด
ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเกิดคำถาม ความกังขาว่าเขาดีพอสำหรับงานใหญ่เช่นนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังหรือเปล่า
เท่าที่ผ่านมา พอช ยังไม่ได้พิสูจน์ฝีมือว่าถึงขั้นขีดสุด เดี๋ยวจะคล้ายเคสของ เดวิด มอยส์ ต้องมานั่งวนแก้ไขอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันหากสังเกตให้ดี หลายนัดกับเปแอสเช แม้จะทำทีมชนะ แต่ก็ไม่น่าประทับใจนัก สกอร์ก็ไม่ได้ยิงขาดลอยกระจุยอะไร
ส่วนใหญ่ต้องการ เอริก เทน ฮาก มากกว่า โดยเฉพาะความโดดเด่นในการปลุกปั้นผู้เล่นดาวรุ่งที่อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จนก้าวสู่แนวหน้าของยุโรปหลายคน
แม้จะดูว่ามีความเสี่ยงพอสมควร แต่ในทางกลับกันความหวังน่าจะเจิดจ้ามากกว่า ในกรณีหากว่านี่คือคนที่ใช่และตามหากันมานานจริงๆ
ทว่าไม่มีใครคาดเดาได้ถูกต้องตอนนี้หรอกว่า ท้ายที่สุดแล้วกุนซือแมนฯยูไนเต็ดในฤดูกาลหน้าจะเป็นใครกัน
รู้แค่ว่าเครดิตที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เคยมีลดลงเรื่อยๆและจะหนักกว่านี้หากโดนเปแอสเชปลดจริง