ราชันชุดขาว ที่สะดุดแพ้เกตาเฟในนัดก่อน กลับมาคืนฟอร์มดุด้วยการรัวยิงทัพค้างขาว 4 ประตู
–
ฟุตบอลลาลีกานัดนี้ เป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด ที่เปิดสนามซานติอาโก้ เบร์นาบิว ต้อนรับการมาเยือนของ บาเลนเซีย
ฝั่งโลส บลังโกส เจ้าบ้านจัดทีมในระบบ 4-3-3 วาง มาร์โก้ อเซนซิโอ, คาริม เบนเซมา, วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นสามประสานในแนวรุก
ทางด้านทัพค้างคาว ผู้มาเยือนเลือกใช้แผน 4-4-2 โดยมี มักซี โกเมซ, ยูนุส มูซาห์ เป็นคู่หัวหอก
เกมครึ่งแรกทำท่าว่าจะจบแบบไร้สกอร์ แต่ในนาทีที่ 43 ราชันชุดขาวก็ออกนำ จากจังหวะที่คาเซมิโรโดนสกัดล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็นเบนเซมาที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้มาดริดขึ้นนำ 1-0
ในนาทีที่ 52 เรอัล มาดริดหนีห่าง จากจังหวะที่เบนเซมาทำชิ่งให้วินิซิอุสฝ่าแนวรับบาเลนเซียเข้าไปแปนิ่ม ๆ ทำให้สกอร์ขยับเป็น 2-0
ถัดมานาทีที่ 61 เจ้าบ้านบวกอีกประตู จากจังหวะที่อเซนซิโอได้ยิง ซิเลสเซนปัดไม่ขาด ก่อนวินิซิอุสตามมาโหม่งซ้ำ ทำให้มาดริดทิ้งห่าง 3-0
ทีมเยือนตีไข่แตกในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่เมนดี้ดึงอันเดรล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ และเป็นกูเอเดสที่ยิงจุดโทษติดเซฟกูร์ตัวส์ แต่เจ้าตัวก็ตามมาโหม่งซ้ำเข้าประตู ทำให้บาเลนเซียไล่มาเป็น 1-3
ในนาทีที่ 88 มาดริดทิ้งห่างอีกครั้ง จากจังหวะที่เมนดี้เติมเกมทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลางให้เบนเซมาพลิกตัวยิง ส่งให้ราชันชุดขาวนำห่าง 4-1
อ่านบทความต่อด้านล่าง
Ancelotti questions talk of Real’s Vinicius overdependence
หลังจากนั้น ไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติม จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านชนะ บาเลนเซีย 4-1 รั้งจ่าฝูงต่อด้วยการเก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน ในขณะที่ทีมเยือนมี 28 คะแนน อยู่อันดับ 9
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด (4-3-3) : ติโบต์ กูร์ตัวส์; ลูคัส บาสเกซ, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, แฟร์ลอง เมนดี้; โทนี โครส, คาเซมิโร, ลูก้า โมดริช; มาร์โก้ อเซนซิโอ, คาริม เบนเซมา, วินิซิอุส จูเนียร์
บาเลนเซีย (4-4-2) : ยาสเปอร์ ซิเลสเซน; คริสเตียโน ปิสซินี, มุคตาร์ เดียกาบี้, โอมาร์ อัลเดเรต, โฆเซ กายา; เอลแดร์ คอสต้า, ดาเนียล วาสส์, อูโก้ กิญามอน, กอนซาโล กูเอเดส; มักซี โกเมซ, ยูนุส มูซาห์
ขอบคุณที่มา goal.com
