ฮาแวร์ตซ์ยิงเร็ว!สิงห์เชือดไก่ 2-0 ตัดเชือกคาราบาว คัพ

336

เชลซีกุมความได้เปรียบในนัดแรกของรอบตัดเชือกถ้วยคาราบาว คัพ เมื่อเปิดบ้านเก็บชัยเหนือสเปอร์ส


คาราบาว คัพ 2021-2022 รอบรองชนะเลิศนัดแรก เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี เปิดรังเหย้า สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์

โธมัส ทูเคิล กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น โรเมลู ลูกากู ทำเกมรุกร่วมกับ ฮาคิม ซีเย็ค, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เมสัน เมาท์

ด้านทีมเยือนของ อันโตนิโอ คอนเต้ ซึ่งได้กลับมายังถิ่นเก่า วางหมากมาในแผน 3-4-3 ใช้สามแนวรุกเป็น ลูคัส มูรา, แฮร์รี เคน และ ซน ฮึง-มิน

ออกสตาร์ทเกมเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของเชลซีมาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ มาร์กอส อลอนโซ ไหลบอลเข้าเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงด้วยซ้ายไปโดน ดาวินซอน ซานเชซ เตะสกัดปลิ้นตุงตาข่ายไป ส่งให้สิงโตน้ำเงินครามออกนำ 1-0

จากนั้นนาทีที่ 34 เชลซีมาได้ลูกสองแบบไม่ต้องยิงเอง จากลูกฟรีคิกทางกราบขวาที่ ฮาคิม ซีเย็ค เปิดเข้าเขตโทษแล้ว จาเฟ็ต ทังกานก้า โหม่งสกัดไปติดหัวไหล่ของ เบน เดวีส์ ปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้เจ้าบ้านหนีห่างเป็น 2-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มอีกแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเชลซีชนะไป 2-0 กุมความได้เปรียบก่อนที่นัดแรกจะต้องไปเยือนท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม คืนวันพุธที่ 12 มกราคมนี้

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
เชลซี (4-2-3-1) : เกปา อาร์ริซาบาลากา; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า (ฮาร์วีย์ เวล น.90), มาล็อง ซาร์, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ; ซาอูล ญีเกซ (รูเบน ลอฟตัส-ชีค น.73), จอร์จินโญ; ฮาคิม ซีเย็ค (คริสเตียน พูลิซิช น.79), ไค ฮาแวร์ตซ์ (ติโม แวร์เนอร์ น.46), เมสัน เมาท์ (มาเตโอ โควาซิช น.73); โรเมลู ลูกากู
สำรองไม่ได้ใช้ : มาร์คัส เบตติเนลลี, รอสส์ บาร์คลีย์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, ลูอิส ฮอลล์
ใบเหลือง – มาล็อง ซาร์ น.62

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (3-4-3) : อูโก้ โยริส; จาเฟ็ต ทังกานก้า, ดาวินซอน ซานเชซ, เบน เดวีส์; เอแมร์ซอน, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์, โอลิเวอร์ สคิปป์ (แฮร์รี วิงส์ น.73), แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ (ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล น.46); ลูคัส มูรา (ไบรอัน กิล น.80), แฮร์รี เคน, ซน ฮึง-มิน (โจวานี โล เซลโซ น.79)
สำรองไม่ได้ใช้ : เซร์คิโอ เรกีลอน, โจ โรดอน, เดเล อัลลี, ปิแอร์ลุยจิ กอลลินี, แบรนดอน ออสติน

ขอบคุณที่มา goal.com

แบ่งปัน