“แท ยง” จวกซูซูกิคัพแบน 4 แข้งอินโดแหกบับเบิล แต่ปล่อยคนเมาปาร์ตี้ในโรงแรม

35

กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย ตำหนิการตัดสินใจของฝ่ายจัดการแข่งขันซูซูกิ คัพ ที่ลงโทษแบน 4 แข้งลูกทีมฐานแหกบับเบิล ทั้งที่เรื่องเกิดตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม

ชิน แท ยง เฮดโค้ชทีมชาติอินโดนีเซีย วิจารณ์บทลงโทษของฝ่ายจัดการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ตัดสินใจลงโทษแบน 4 นักเตะของทีม โทษฐานแหกกฏบับเบิล จนทำให้พลาดลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศ เลกสอง ที่เสมอกับ ทีมชาติไทย 2-2 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565

ศึกชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ มีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งทั้ง 10 ชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมโรค Bubble and Seal โดยหลีกเลี่ยงการพบปะกับผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม อินโดนีเซีย กลับเผชิญปัญหาใหญ่ก่อนเกมนัดชิงชนะเลิศ เลกสอง เมื่อวานที่ผ่านมา หลังหน่วยงาน SportSG ได้ประกาศว่า 4 นักเตะทีมชาติอินโดนีเซีย ประกอบด้วย เอลคาน แบ็กก็อตต์, ริซกี ริดโฮ, วิคเตอร์ อิกโบเนโฟ และ ริซกี ฟาบริอานโต หมดสิทธิ์ลงสนามในเกมดังกล่าว เนื่องจากถูกลงโทษจากการฝ่าฝืนมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ของสิงคโปร์และฝ่ายจัดการแข่งขัน ก่อนที่จบเกมทัพการูด้าจะเสมอกับช้างศึก 2-2 รวมผลสองนัดพ่ายไปด้วยสกอร์ 2-6 ชวดแชมป์ในที่สุด

หลังจบเกม ชิน แท ยง กุนซือทีมชาติอินโดนีเซีย เผยว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจลงโทษแบนลูกทีมของตัวเองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน เพราะมองว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมแล้ว ที่สำคัญปัญหาการจัดการแข่งขันของสิงคโปร์ภายใต้มาตรการ Bubble and Seal มีจุดบกพร่องพอสมควร โดยเฉพาะโรงแรมที่พักของนักกีฬา ที่ยังไม่บุคคลทั่วไปเข้ามาใช้บริการ

“บทลงโทษมันน่าผิดหวังมาก อย่างแรกเลยผมอยากขอบคุณรัฐบาลสิงคโปร์และสหพันธ์ฟุตบอลสิงคโปร์ที่จัดการแข่งขันซูซูกิ คัพ แม้จะมีการระบาดของโควิด-19” ชิน แท ยง กล่าว

“แต่มันน่าผิดหวังเรื่องการจัดการ มีหลายปัญหาเกิดขึ้น รวมทั้งเรื่องการกักตัวด้วยเช่นกัน เมื่อเช้าวันแข่งขันมีรายงานมาว่านักเตะ 4 คนจะไม่สามารถลงสนามได้ ซึ่งเรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่ 15 ธันวาคม เพราะมันมีผู้คนพลุกพล่านในห้อง”

“นักเตะที่ออกไปข้างนอกได้รับแต่เพียงคำเตือนเท่านั้น มันไม่เป็นไรเลยจริง ๆ เราเข้าใจได้ อย่างไรก็ตามมันมีบุคคลทั่วไปอยู่กันเต็มชั้นของโรงแรมเลย”

“หลายคนเมาในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เพราะมีปาร์ตี้ เสียงรบกวนเยอะมาก ๆ และมันรบกวนเราในการพักผ่อน ในอนาคตมันต้องมีการพัฒนาในการจัดการปัญหาแบบนี้ซึ่งจะทำให้เรามีสมาธิกับเกมได้” กุนซือชาวเกาหลีใต้ เผย

สำหรับ อินโดนีเซีย ยังต้องรอคอยแชมป์อาเซียนต่อไป โดยผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ 6 ครั้ง แต่จบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ทุกครั้ง นับตั้งแต่มีการแข่งขันรายการนี้เมื่อปี 1996

GOAL Thailand

แบ่งปัน