เปแอสเชชวดครองแชมป์เฟร้นช์ คัพ 5 สมัยติด หลังพ่ายจุดโทษ และส่งผลให้แรนส์ได้แชมป์ไปครองเป็นครั้งแรกในรอบถึง 48 ปี
–
https://hofoot.veuclips.com/embed/HGVpklOVrn?autoplay=1&htmlplayer=1
–
ฟุตบอลถ้วยของฝรั่งเศส “เฟร้นช์ คัพ 2019” รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ เป็นการพบกันระหว่าง แรนส์ อดีตแชมป์ดวลกับแชมป์เก่า 4 สมัยติด และเจ้าของแชมป์มากสุดตลอดกาล 12 สมัยอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ฌูเลียง สเตฟ็อง กุนซือของแรนส์ นำทัพมาโดยแข้งจอมเก๋าวัย 32 ปีอย่าง ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ซึ่งจะได้ดวลทีมเก่าด้วย โดยจะลงเล่นกองหน้าในระบบ 4-4-2 คู่กับ เอ็มบาย เนียง
ด้านเปแอสเชของ โทมัส ทูเคิล ซึ่งเพิ่งจะคว้าแชมป์ลีกเอิงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วางหมากมาในแผน 4-3-3 โดยใช้สามแนวรุกเป็น อังเคล ดิ มาเรีย, คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์
ออกสตาร์ทเกมมาเพียงแค่ 13 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของเปแอสเชซึ่งจัดการพังประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ เนย์มาร์ บรรจงเปิดย้อยมาบริเวณหัวกะโหลกหน้ากรอบเขตโทษให้ ดานี อัลเวส วอลเลย์ด้วยขวาเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ส่งให้แชมป์เก่าออกนำ 1-0
ต่อมานาทีที่ 21 เปแอสเชมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ ดิ มาเรีย จ่ายทะลุช่องให้ เนย์มาร์ หลุดไปงัดบอลข้ามหัว โทมัส คูเบ็ค ผู้รักษาประตูของแรนส์อย่างเหนือชั้น ช่วยให้แชมป์เก่าหนีห่างเป็น 2-0
ทว่าในนาทีที่ 40 แรนส์กลับประตูตีไข่แตกแบบไม่ต้องยิงเอง จากจังหวะที่ ฮามารี ตราโอเร เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษไปโดน เพรสเนล คิมเพมเบ้ พุ่งแหย่ขาซ้ายสกัดลูกผิดเหลี่ยมปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป อดีตแชมป์ 2 สมัยไล่มาเป็น 1-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังแม้ว่าเปแอสเชจะยังดูครองเกมบุกได้มากกว่า แต่แล้วในนาทีที่ 66 แรนส์ก็มาฉวยโอกาสตามตีเสมอ จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ เคลมองต์ เกรอนิเยร์ เปิดให้ เอ็ดสัน อ็องเดร ซิโตเอ้ หรือว่า “เมเซอร์” โฉบมาโหม่งตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2
จากนั้นจนจบ 90 นาทีเวลาปกติ ก็ไม่ประตูเกิดขึ้้นเพิ่มเติมอีก แต่ทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ด้วยสกอร์ 2-2 ส่งผลให้ต้องมีการต่อเวลาพิเศษเพิ่มออกไปอีก 30 นาที
ช่วงท้ายของการต่อเวลาพิเศษ ในนาทีที่ 118 เปแอสเชกลับต้องมาเหลือ 10 คน จากจังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ไปเจตนาย่ำใส่หัวเข่าของ ดาเมียง ดา ซิลวา อย่างรุนแรง จนถูกผู้ตัดสินให้ใบแดงโดยตรงไล่ออกจากสนามไปทันที ก่อนเกมจบ 120 นาที สกอร์ก็ยังเสมอกันอยู่ 2-2 เท่าเดิม ทำให้ต้องมาตัดสินผู้ชนะกันด้วยการยิงจุดโทษ
สุดท้ายในช่วงดวลจุดโทษ เป็นฝั่งของแรนส์ที่ยิงแม่นกว่าสังหารเข้าไปครองทั้ง 7 คน ขณะที่เปแอสเปดันมาพลาดคนสุดท้ายคือ คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู ซึ่งซัดบอลโด่งข้ามคานไป ทำให้เป็นแรนส์เอาชนะไป 6-5 ผงาดคว้าแชมป์เฟร้นช์ คัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ 48 ปี หรือนับตั้งแต่ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1971 เลยทีเดียว พร้อมเพิ่มยอดรวมแชมป์เป็น 3 สมัย
ขณะที่ปารีส แซงต์-แชร์กแมงชวดคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ยอดรวมแชมป์ยังหยุดอยู่ที่ 12 สมัยเท่าเดิม นอกจากนี้ยังส่งผลให้ฤดูกาลนี้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกเอิงไปครองได้เพียงแค่รายการเดียวเท่านั้น
ขอบคุณที่มา – http://www.goal.com